นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลุกขึ้นชี้แจงภายหลัง ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายเสร็จสิ้น โดยยืนยันว่าตนไม่ใช่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่การปรากฏตัวบนเวทีชุมนุมนั้นมีการเชิญให้ตนไปเป็นวิทยากร โดยการตกลงร่วมชุมนุมนั้นเพราะต้องการร่วมขับไล่ระบอบทักษิณ ซึ่งตนไม่รู้สึกละอาย
นอกจากนี้ นายกษิต เปิดเผยด้วยว่า เมื่อปี 2544 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้เชิญให้ตนไปเป็นที่ปรึกษา หลังจากนั้นระยะหนึ่งตนรู้สึกไม่สบายใจจึงกลับไปเป็นเอกอัครราชทูต และเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในพิธีลงนามกู้เงินจากเจบิกเพื่อมาใช้ในโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ หากผู้อภิปรายไม่ชอบพันธมิตรฯ ก็ควรใช้อุดมการณ์ไปต่อสู้กันข้างนอก อย่านำตนไปเป็นสะพานเชื่อม
ทั้งนี้ ระหว่างการอภิปรายมีการนำข่าวที่มีลักษณะเชิงนินทามาปะติดปะต่อและนำมาอภิปราย ซึ่งตนขอท้าให้ฟ้องร้องที่ใดก็ได้
ส่วนเรื่องปราสาทพระวิหารกับฝ่ายกัมพูชานั้น นายกษิต ยืนยันว่า ไทยไม่มีการเสียดินแดนแต่อย่างใด จึงมองว่าคณะทำงานของฝ่ายค้าน หรือวอร์รูม มีฝีมือที่ไม่ถึง
หลังจากนายกษิต ชี้แจงเสร็จสิ้น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกษิต ได้ลุกขึ้นประท้วง โดยอ้างว่านายกษิต ชี้แจงไม่ครบและไม่ตรงประเด็น รวมถึงการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ
นอกจากนี้ นายกษิต เปิดเผยด้วยว่า เมื่อปี 2544 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้เชิญให้ตนไปเป็นที่ปรึกษา หลังจากนั้นระยะหนึ่งตนรู้สึกไม่สบายใจจึงกลับไปเป็นเอกอัครราชทูต และเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในพิธีลงนามกู้เงินจากเจบิกเพื่อมาใช้ในโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ หากผู้อภิปรายไม่ชอบพันธมิตรฯ ก็ควรใช้อุดมการณ์ไปต่อสู้กันข้างนอก อย่านำตนไปเป็นสะพานเชื่อม
ทั้งนี้ ระหว่างการอภิปรายมีการนำข่าวที่มีลักษณะเชิงนินทามาปะติดปะต่อและนำมาอภิปราย ซึ่งตนขอท้าให้ฟ้องร้องที่ใดก็ได้
ส่วนเรื่องปราสาทพระวิหารกับฝ่ายกัมพูชานั้น นายกษิต ยืนยันว่า ไทยไม่มีการเสียดินแดนแต่อย่างใด จึงมองว่าคณะทำงานของฝ่ายค้าน หรือวอร์รูม มีฝีมือที่ไม่ถึง
หลังจากนายกษิต ชี้แจงเสร็จสิ้น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกษิต ได้ลุกขึ้นประท้วง โดยอ้างว่านายกษิต ชี้แจงไม่ครบและไม่ตรงประเด็น รวมถึงการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ
