นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะเรื่องของเช็กช่วยชาติ 2,000 บาท ที่รัฐบาลไม่ได้ประจายความช่วยเหลือ ครอบคลุมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาวะเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ยังมีความไม่โปร่งใส เอื้อประโยชน์ให้กับธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นธนาคารเอกชน ให้เป็นผู้ดำเนินการแจกจ่ายเช็ก 2,000 บาท แทนที่จะเป็นธนาคารของรัฐ โดยตั้งข้อสังเกตว่า การที่รัฐบาลมอบหมายให้ธนาคารกรุงเทพเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากผู้บริหารมีความสัมพันธ์ใกล้ชิกกับ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและยังเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการทำให้ประเทศชาติต้องเสียหาย จากส่วนต่างในการจัดพิมพ์เช็ก จึงไม่สามารถไว้วางใจ นายกรณ์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ เพราะเช็กดังกล่าว ไม่ถือเป็นเช็กช่วยชาติ แต่เป็นเช็กช่วยพวกพ้อง
ด้านนายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายเรื่องการใช้งบจัดโครงการต้นกล้าอาชีพ ที่มีการใช้งบในส่วนที่ไม่จำเป็นมากเกินไป
นอกจากนี้เรื่องโครงการเช็กช่วยชาติ 2,000 บาท ก็ยังทำให้ธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่ ได้รับประโยชน์ในการใช้จ่ายเช็กของประชาชน แทนที่จะเป็นร้านค้าขนาดเล็ก
นอกจากนี้ยังมีความไม่โปร่งใส เอื้อประโยชน์ให้กับธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นธนาคารเอกชน ให้เป็นผู้ดำเนินการแจกจ่ายเช็ก 2,000 บาท แทนที่จะเป็นธนาคารของรัฐ โดยตั้งข้อสังเกตว่า การที่รัฐบาลมอบหมายให้ธนาคารกรุงเทพเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากผู้บริหารมีความสัมพันธ์ใกล้ชิกกับ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและยังเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการทำให้ประเทศชาติต้องเสียหาย จากส่วนต่างในการจัดพิมพ์เช็ก จึงไม่สามารถไว้วางใจ นายกรณ์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ เพราะเช็กดังกล่าว ไม่ถือเป็นเช็กช่วยชาติ แต่เป็นเช็กช่วยพวกพ้อง
ด้านนายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายเรื่องการใช้งบจัดโครงการต้นกล้าอาชีพ ที่มีการใช้งบในส่วนที่ไม่จำเป็นมากเกินไป
นอกจากนี้เรื่องโครงการเช็กช่วยชาติ 2,000 บาท ก็ยังทำให้ธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่ ได้รับประโยชน์ในการใช้จ่ายเช็กของประชาชน แทนที่จะเป็นร้านค้าขนาดเล็ก