พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าผลการสืบสวนกรณีการทุจริตโครงการอาหาร (เสริม) โรงเรียน หรือนมโรงเรียน ว่า ประเด็นในการสืบสวนจะมุ่งไปที่เรื่องประเด็นการแบ่งโซนการจำหน่ายนมโรงเรียน ที่ได้มีการแบ่งโซนออกเป็น 3 โซน อาจเข้าข่ายเป็นการกำหนดเงื่อนไข เพื่อเป็นการกีดกันผู้เสนอราคารายอื่นนอกเขตโซนนิ่ง เพื่อไม่ให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคากับหน่วยงานของรัฐ ซึ่งประเด็นนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้สรุปเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว
นอกจากนี้ คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ยังพบหลักฐานการทุจริตชัดเจนที่ จ.ชุมพร โดยผู้เสนอราคามีวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม จึงจำเป็นต้องนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาใน กคพ. เพื่อขอให้มีมติรับเป็นคดีพิเศษ ภายในเดือนมีนาคมนี้
พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจสอบการผลิตนมของผู้ประกอบการทั้ง 68 รายแล้ว ซึ่งหากปรากฏว่าผู้ประกอบการรายใดผลิตนมไม่ได้มาตรฐาน หรือมีการปลอมปนนม อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร และความผิดฐานปลอมปนอาหารได้
นอกจากนี้ คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ยังพบหลักฐานการทุจริตชัดเจนที่ จ.ชุมพร โดยผู้เสนอราคามีวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม จึงจำเป็นต้องนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาใน กคพ. เพื่อขอให้มีมติรับเป็นคดีพิเศษ ภายในเดือนมีนาคมนี้
พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจสอบการผลิตนมของผู้ประกอบการทั้ง 68 รายแล้ว ซึ่งหากปรากฏว่าผู้ประกอบการรายใดผลิตนมไม่ได้มาตรฐาน หรือมีการปลอมปนนม อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร และความผิดฐานปลอมปนอาหารได้
