พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวก่อนให้ พล.อ.โปล ซาเรือน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชา เข้าพบ เนื่องในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ที่กระทรวงกลาโหม ถึงการตั้งองค์กรอิสระปฏิรูปการเมือง ว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรมีความหลากหลายขององค์กรต่างๆ ที่จะเข้ามาร่วมระดมความคิด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทางการเมืองอื่นๆ อาทิ กลุ่ม นปช. หรือพันธมิตรฯ
ทั้งนี้ ยืนยันว่ากองทัพไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการปฏิรูปทางการเมือง แต่มีความพร้อมหากต้องการให้ทหารเข้าไปมีส่วนร่วม เพื่อให้ประเทศชาติสามารถเดินหน้าต่อไปได้
นอกจากนี้ เห็นว่าควรสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรได้ให้แนวทางกับกองทัพเพื่อเข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งในขณะนี้ประเทศมีปัญหาทางเศรษฐกิจที่ทุกคนจะต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบหลายด้าน และย้ำว่า กองทัพไม่ได้สั่งการกำลังพลเข้าไปดูแลการชุมนุมใดๆ เป็นพิเศษ เพราะถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังกล่าวถึงการปรับย้ายนายทหารเดือนเมษายนนี้ว่า ยืนยันไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซง เพราะมีพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้าย ที่มีทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการหารือกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อได้ว่าจะได้บุคคลที่เหมาะสม เพราะผู้บัญชาการเหล่าทัพเป็นผู้พิจารณา ตามคุณสมบัติและความสามารถ ซึ่งน่าจะสามารถทำงานตอบสนองกับนโยบายของรัฐบาลได้
ทั้งนี้ ยืนยันว่ากองทัพไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการปฏิรูปทางการเมือง แต่มีความพร้อมหากต้องการให้ทหารเข้าไปมีส่วนร่วม เพื่อให้ประเทศชาติสามารถเดินหน้าต่อไปได้
นอกจากนี้ เห็นว่าควรสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรได้ให้แนวทางกับกองทัพเพื่อเข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งในขณะนี้ประเทศมีปัญหาทางเศรษฐกิจที่ทุกคนจะต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบหลายด้าน และย้ำว่า กองทัพไม่ได้สั่งการกำลังพลเข้าไปดูแลการชุมนุมใดๆ เป็นพิเศษ เพราะถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังกล่าวถึงการปรับย้ายนายทหารเดือนเมษายนนี้ว่า ยืนยันไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซง เพราะมีพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้าย ที่มีทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการหารือกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อได้ว่าจะได้บุคคลที่เหมาะสม เพราะผู้บัญชาการเหล่าทัพเป็นผู้พิจารณา ตามคุณสมบัติและความสามารถ ซึ่งน่าจะสามารถทำงานตอบสนองกับนโยบายของรัฐบาลได้
