แนวคิดของรัฐบาลที่จะปรับเปลี่ยนสัดส่วนนมโรงเรียน จากนมสดพาสเจอร์ไรส์ร้อยละ 70 เหลือเพียงร้อยละ 30 และเพิ่มสัดส่วนนมกล่องยูเอชทีเป็นร้อยละ 70 แทนนั้น นายกิติรัตน์ ภัทรปรีชาสกุล นายกสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ กล่าวว่า เตรียมทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลปฏิบัติตามเงื่อนไขเดิม ที่กำหนดให้ใช้นมสดพาสเจอร์ไรส์สำหรับโรงเรียนร้อยละ 70 มิเช่นนั้นจะนำเรื่องนี้ขึ้นถวายฎีกา
นายกิติรัตน์ กล่าวต่อไปว่า การปรับเปลี่ยนสัดส่วนดังกล่าว จะกระทบการจ้างงาน เช่น ผู้ผลิตนมในโรงงาน ผู้ผลิตซองนม ผู้รับจ้างขนส่งรวมประมาณ 4,000-5,000 คน หากสัดส่วนนมดังกล่าว เหลือเพียงร้อยละ 30 ก็จะไม่คุ้มกับการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายย่อย เช่น สหกรณ์ สถาบันการศึกษา 63 ราย ต้องปิดกิจการ หากเปลี่ยนไปใช้นมกล่องยูเอชที จะทำให้รัฐบาลต้องใช้งบประมาณเพิ่มอีกปีละ 1,820 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนนมกล่องอยู่ที่ 7.86 บาท ขณะที่นมถุงพาสเจอร์ไรส์อยู่ที่ 6.57 บาท
น.ส.ศิริวรรณ หันจรัส ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากมีการเปลี่ยนสัดส่วน จะทำให้ปริมาณนมล้นตลาดเพิ่มขึ้น เพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า บริษัทที่ผลิตนมกล่องยูเอชทีจะสามารถผลิตได้ตามที่กำหนดหรือไม่
นายกิติรัตน์ กล่าวต่อไปว่า การปรับเปลี่ยนสัดส่วนดังกล่าว จะกระทบการจ้างงาน เช่น ผู้ผลิตนมในโรงงาน ผู้ผลิตซองนม ผู้รับจ้างขนส่งรวมประมาณ 4,000-5,000 คน หากสัดส่วนนมดังกล่าว เหลือเพียงร้อยละ 30 ก็จะไม่คุ้มกับการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายย่อย เช่น สหกรณ์ สถาบันการศึกษา 63 ราย ต้องปิดกิจการ หากเปลี่ยนไปใช้นมกล่องยูเอชที จะทำให้รัฐบาลต้องใช้งบประมาณเพิ่มอีกปีละ 1,820 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนนมกล่องอยู่ที่ 7.86 บาท ขณะที่นมถุงพาสเจอร์ไรส์อยู่ที่ 6.57 บาท
น.ส.ศิริวรรณ หันจรัส ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากมีการเปลี่ยนสัดส่วน จะทำให้ปริมาณนมล้นตลาดเพิ่มขึ้น เพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า บริษัทที่ผลิตนมกล่องยูเอชทีจะสามารถผลิตได้ตามที่กำหนดหรือไม่
