นายอาชว์ เตาลานนท์ กรรมการคณะกรรมการธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจขณะนี้ ทำให้ประชาชนใช้โทรคมนาคมติดต่อสื่อสารมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดขยายตัวร้อยละ 3-5 โดยโทรศัพท์มือถือนั้น จะขยายตัวต่อเนื่อง ยกเว้นจำนวนเลขหมายที่จะเติบโตไม่มากนัก เพราะว่าปัจจุบันมีมากแล้วถึง 60 ล้านเลขหมาย
ส่วนเทคโนโลยี 3 จีนั้น ทางภาคเอกชนทั้ง 3 ค่าย คือ เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ อาจจะลงทุนในปี 2553 โดยใช้เงินกว่า 49,000 ล้านบาท และคาดว่า จะทดแทนเทคโนโลยี 2 จี ซึ่งใช้กับมือถือปัจจุบันได้ในอีก 8-10 ปีข้างนอก ส่วนธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงคาดว่า ปีหน้าจะเติบโตร้อยละ 35 โดยเฉพาะในต่างจังหวัด แต่ยังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างรัฐบาล และเอกชน โดยรัฐบาลจะเป็นผู้พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานให้สมบูรณ์ เพื่อช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และหวังว่านโยบายด้านไอซีทีของรัฐบาล จะมีความต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนแปลงบ่อย
ส่วนเทคโนโลยี 3 จีนั้น ทางภาคเอกชนทั้ง 3 ค่าย คือ เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ อาจจะลงทุนในปี 2553 โดยใช้เงินกว่า 49,000 ล้านบาท และคาดว่า จะทดแทนเทคโนโลยี 2 จี ซึ่งใช้กับมือถือปัจจุบันได้ในอีก 8-10 ปีข้างนอก ส่วนธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงคาดว่า ปีหน้าจะเติบโตร้อยละ 35 โดยเฉพาะในต่างจังหวัด แต่ยังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างรัฐบาล และเอกชน โดยรัฐบาลจะเป็นผู้พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานให้สมบูรณ์ เพื่อช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และหวังว่านโยบายด้านไอซีทีของรัฐบาล จะมีความต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนแปลงบ่อย