นายณัฐ ชาหอม และนายสุภัทร เนินวิเชียร ถูกตำรวจสืบสวนนครบาล 4 จับกุมได้ พร้อมของกลางรถยนต์ 3 คัน เงินสดกว่า 1 ล้านบาท และอาวุธปืนพร้อมกระสุนจำนวนมาก และระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 12 ลูก หลังร่วมกับพวกอีก 3 คน ซึ่งยังหลบหนี คือ นายหทัย ไชยวัณณ์ นักแข่งรถแชมป์ประเทศไทย นายกีรติ กุมพล และนายพีรวัฒน์ ตะวันธรงค์ ก่อเหตุบุกเข้าไปขโมยทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท จากบ้านเศรษฐี ในหมู่บ้านธารารมณ์ ซอยรามคำแหง 9 เขตวังทองหลาง เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมปีที่แล้ว ก่อนแยกย้ายกันหลบหนีไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังขยายผลตรวจค้นบ้านพักของนายณัฐ ที่หมู่บ้านระวิภา ซอยอุดมสุข 40 และอู่ซ่อนรถไม่มีชื่อ เลขที่ 15 ซอยพระรามเก้า 60 ของนายหทัย ได้ของกลางตู้เซฟ 2 ตู้ เงินสด ป้ายทะเบียนรถ สมุดบัญชีธนาคาร นาฬิกา พระเครื่อง อาวุธปืนพร้อมกระสุน และทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการ โดยระหว่างการเข้าตรวจค้นที่อู่ซ่อมรถ พบนายหทัย อยู่ที่อู่ แต่นายหทัยและแฟนสาวได้ขับรถฝ่าวงล้อมตำรวจ พร้อมยิงปืนเข้าใส่ ก่อนหลบหนีไปได้
ด้านนายณัฐ สารภาพว่า ก่อเหตุมาแล้วกว่า 20 ครั้ง เงินที่ได้มาจะนำไปซื้อทรัพย์สินเก็บไว้ และเล่นการพนัน เมื่อเงินหมดก็จะชวนกันออกตระเวนหาเงินใหม่ ล่าสุดได้ก่อเหตุขโมยทรัพย์สินจากบ้านในหมู่บ้านนวธานี ได้เงินไปประมาณ 12 ล้านบาท
เบื้องต้น นายสุภัทร และนายณัฐ ถูกตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ และจะเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป โดยเฉพาะในรายของนายหทัย หากไม่ยอมมอบตัว และทำการต่อสู้ขัดขืนอีกเมื่อพบตัว ตำรวจก็จำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ตำรวจพยายามดูแลช่วยเหลือประชาชนให้ปลอดภัยจากแก๊งมิจฉาชีพ แต่ประชาชนก็ควรหาวิธีในการดูแลทรัพย์สินของตัวเองด้วย เช่นการใช้ระบบเซ็นเซอร์ติดตั้งไว้ที่บ้าน โดยเมื่อมีคนร้ายบุกเข้ามาในบ้าน เครื่องมือนี้จะส่งสัญญาณมาที่โทรศัพท์มือถือ หรือโทรศัพท์ของสถานีตำรวจทันที
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังขยายผลตรวจค้นบ้านพักของนายณัฐ ที่หมู่บ้านระวิภา ซอยอุดมสุข 40 และอู่ซ่อนรถไม่มีชื่อ เลขที่ 15 ซอยพระรามเก้า 60 ของนายหทัย ได้ของกลางตู้เซฟ 2 ตู้ เงินสด ป้ายทะเบียนรถ สมุดบัญชีธนาคาร นาฬิกา พระเครื่อง อาวุธปืนพร้อมกระสุน และทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการ โดยระหว่างการเข้าตรวจค้นที่อู่ซ่อมรถ พบนายหทัย อยู่ที่อู่ แต่นายหทัยและแฟนสาวได้ขับรถฝ่าวงล้อมตำรวจ พร้อมยิงปืนเข้าใส่ ก่อนหลบหนีไปได้
ด้านนายณัฐ สารภาพว่า ก่อเหตุมาแล้วกว่า 20 ครั้ง เงินที่ได้มาจะนำไปซื้อทรัพย์สินเก็บไว้ และเล่นการพนัน เมื่อเงินหมดก็จะชวนกันออกตระเวนหาเงินใหม่ ล่าสุดได้ก่อเหตุขโมยทรัพย์สินจากบ้านในหมู่บ้านนวธานี ได้เงินไปประมาณ 12 ล้านบาท
เบื้องต้น นายสุภัทร และนายณัฐ ถูกตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ และจะเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป โดยเฉพาะในรายของนายหทัย หากไม่ยอมมอบตัว และทำการต่อสู้ขัดขืนอีกเมื่อพบตัว ตำรวจก็จำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ตำรวจพยายามดูแลช่วยเหลือประชาชนให้ปลอดภัยจากแก๊งมิจฉาชีพ แต่ประชาชนก็ควรหาวิธีในการดูแลทรัพย์สินของตัวเองด้วย เช่นการใช้ระบบเซ็นเซอร์ติดตั้งไว้ที่บ้าน โดยเมื่อมีคนร้ายบุกเข้ามาในบ้าน เครื่องมือนี้จะส่งสัญญาณมาที่โทรศัพท์มือถือ หรือโทรศัพท์ของสถานีตำรวจทันที