นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กรณีผู้ประกันตนที่ถูกให้ออกจากงานและเคยได้รับสิทธิประกันสังคม แต่ขาดส่งเงินสมทบกับกองทุนประกันสังคมเกิน 3 เดือน ทำให้เสียสิทธิต่างๆ ที่จะได้รับจากกองทุนประกันสังคม กระทรวงแรงงานจึงเตรียมเสนอแก้ไขกฎหมายขยายเวลาคุ้มครองผู้ประกันตน ทั้งถูกผู้เลิกจ้าง ตกงาน และขาดส่งเงินสมทบกับกองทุนประกันสังคม สามารถได้สิทธิเป็นผู้ประกันตนตามมาตรการ 39 ต่อไป สำหรับผู้ประกันตนที่ยังคงสภาพอยู่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานยืนยันว่า ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนเดิม รวมทั้งกรณีเงินช่วยเหลือ 2,000 บาทเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนค่าครองชีพในเบื้องต้นทุกราย โดยจะเริ่มจ่ายเงินให้ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีลูกจ้างร้องเรียนว่า มีบริษัทบางแห่งจ่ายเงินช่วยค่าครองชีพ 2,000 บาท ให้ลูกจ้างที่ต้องการเงินด่วนก่อน 1,500 บาทและนายจ้างหักไว้ 500 บาท ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำลักษณะตกเขียว ซึ่งกระทรวงแรงงานสามารถเอาผิดนายจ้างได้ตามกฎหมาย จึงเตือนทั้งนายจ้างว่า อย่าได้คิดกระทำการเป็นอันขาด ส่วนผู้ประกันตนที่เป็นลูกจ้าง สิ่งแรกที่ควรทำ คือ อย่ารับเงิน ขอให้อดใจรอเพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานประกันสังคมจะนำเช็กไปให้แก่ลูกจ้างโดยตรงแล้วและหากลูกจ้างรายใดพบเห็นว่า นายจ้างมีพฤติกรรมส่อไปในทางมิชอบสามารถส่งบัตรสนเท่ห์ โดยระบุชื่อของนายจ้างและชื่อบริษัทที่ถูกต้องแท้จริงมาที่สำนักงานประกันสังคม หรือที่กระทรวงแรงงาน จากนั้นจะตรวจสอบหากมีความผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีการละเว้น
สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน ซึ่งคาดว่าจะมีประเด็นเรื่องเงินบรรเทาความเดือดร้อนค่าครองชีพจำนวน 2,000 บาทของกระทรวงแรงงาน นายไพฑูรย์ มั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงได้อยู่แล้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีลูกจ้างร้องเรียนว่า มีบริษัทบางแห่งจ่ายเงินช่วยค่าครองชีพ 2,000 บาท ให้ลูกจ้างที่ต้องการเงินด่วนก่อน 1,500 บาทและนายจ้างหักไว้ 500 บาท ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำลักษณะตกเขียว ซึ่งกระทรวงแรงงานสามารถเอาผิดนายจ้างได้ตามกฎหมาย จึงเตือนทั้งนายจ้างว่า อย่าได้คิดกระทำการเป็นอันขาด ส่วนผู้ประกันตนที่เป็นลูกจ้าง สิ่งแรกที่ควรทำ คือ อย่ารับเงิน ขอให้อดใจรอเพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานประกันสังคมจะนำเช็กไปให้แก่ลูกจ้างโดยตรงแล้วและหากลูกจ้างรายใดพบเห็นว่า นายจ้างมีพฤติกรรมส่อไปในทางมิชอบสามารถส่งบัตรสนเท่ห์ โดยระบุชื่อของนายจ้างและชื่อบริษัทที่ถูกต้องแท้จริงมาที่สำนักงานประกันสังคม หรือที่กระทรวงแรงงาน จากนั้นจะตรวจสอบหากมีความผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีการละเว้น
สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน ซึ่งคาดว่าจะมีประเด็นเรื่องเงินบรรเทาความเดือดร้อนค่าครองชีพจำนวน 2,000 บาทของกระทรวงแรงงาน นายไพฑูรย์ มั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงได้อยู่แล้ว