นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ รักษาการเลขาธิการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) กองทุนฟื้นฟูฯ ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อชำระหนี้แทนเกษตรกรตามมติคณะรัฐมนตรี มูลค่ากว่า 950 ล้านบาท เพื่อสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรว่าจะไม่ถูกยึดที่ดินทำกิน จำนวนเกือบ 2,000 ราย
ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะดำเนินการไถ่ถอนจำนองหลักประกันที่เกษตรกรได้จำนองไว้กับ ธ.ก.ส. และส่งมอบเอกสารหลักประกันแห่งหนี้ให้กองทุนฟื้นฟูภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับการชำระหนี้เสร็จสิ้น ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินคดี กองทุนฟื้นฟูฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย ที่ยังปักหลักอยู่ที่กระทรวงการคลัง ต้องการเพิ่มเงื่อนไขในบันทึกข้อตกลงที่กองทุนฟื้นฟูกับ ธ.ก.ส. ให้ครอบคลุมเกษตรกรอีก 100,000 รายนั้น ไม่สามารถปฏิบัติได้เพราะไม่เป็นตามมติคณะรัฐมนตรี และพบว่าบางรายที่ดินยังไม่ได้หลุดไปอยู่ในมือบุคคลที่ 3
ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะดำเนินการไถ่ถอนจำนองหลักประกันที่เกษตรกรได้จำนองไว้กับ ธ.ก.ส. และส่งมอบเอกสารหลักประกันแห่งหนี้ให้กองทุนฟื้นฟูภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับการชำระหนี้เสร็จสิ้น ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินคดี กองทุนฟื้นฟูฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย ที่ยังปักหลักอยู่ที่กระทรวงการคลัง ต้องการเพิ่มเงื่อนไขในบันทึกข้อตกลงที่กองทุนฟื้นฟูกับ ธ.ก.ส. ให้ครอบคลุมเกษตรกรอีก 100,000 รายนั้น ไม่สามารถปฏิบัติได้เพราะไม่เป็นตามมติคณะรัฐมนตรี และพบว่าบางรายที่ดินยังไม่ได้หลุดไปอยู่ในมือบุคคลที่ 3