นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงและทวีความรุนแรงมากขึ้นส่งผลกระทบไปยังผู้ประกอบการทุกสาขาอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน แม้สถานการณ์ในปี 2551 อุตสาหกรรมรถยนต์สามารถขยายตัวได้ร้อยละ 8 อย่างไรก็ตาม ในปี 2552 มีแนวโน้มชะลอตัวกว่าร้อยละ 20 ตามภาวะเศรษฐกิจโลก
นายอาทิตย์ กล่าวว่า เพื่อความอยู่รอดและเติบโตของผู้ประกอบการ จึงต้องมีการปรับตัวกันขนานใหญ่ โดยในส่วนของ สศอ. ได้จัดสรรงบประมาณการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน จำนวน 80 ล้านบาท โดยร่วมกับสถาบันยานยนต์ จัดทำโครงการพัฒนาระบบบริหารการผลิต ระยะที่ 2 งบประมาณ 50 ล้านบาท และโครงการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ งบประมาณ 30 ล้านบาท
ผู้อำนวยการ สศอ. กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา สศอ. ได้ให้การสนับสนุนและผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน โดยได้มีการวางรากฐานความพร้อมของการพัฒนาให้สามารถดำเนินการไปได้อย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการพัฒนาระบบบริหารการผลิต ระยะที่ 2 จะเป็นการต่อยอดจากปีที่แล้ว โดยมีผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 200 ราย ซึ่งจะเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการบริหารการผลิตและบุคลากร เพื่อให้เกิดการฝังตัวในโรงงานให้มีขีดความสามารถในการพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง และเกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรบุคคลที่มากด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรม และสานต่อการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ให้ประเทศ ส่วนโครงการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่น มีทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทำงานร่วมกันในการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะฝีมือ รวมทั้งพัฒนาความสามารถของแรงงานให้มีทักษะฝีมือสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก ซึ่งปัจจุบันตลาดแรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังประสบปัญหาทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ
นายอาทิตย์ กล่าวว่า เพื่อความอยู่รอดและเติบโตของผู้ประกอบการ จึงต้องมีการปรับตัวกันขนานใหญ่ โดยในส่วนของ สศอ. ได้จัดสรรงบประมาณการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน จำนวน 80 ล้านบาท โดยร่วมกับสถาบันยานยนต์ จัดทำโครงการพัฒนาระบบบริหารการผลิต ระยะที่ 2 งบประมาณ 50 ล้านบาท และโครงการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ งบประมาณ 30 ล้านบาท
ผู้อำนวยการ สศอ. กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา สศอ. ได้ให้การสนับสนุนและผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน โดยได้มีการวางรากฐานความพร้อมของการพัฒนาให้สามารถดำเนินการไปได้อย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการพัฒนาระบบบริหารการผลิต ระยะที่ 2 จะเป็นการต่อยอดจากปีที่แล้ว โดยมีผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 200 ราย ซึ่งจะเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการบริหารการผลิตและบุคลากร เพื่อให้เกิดการฝังตัวในโรงงานให้มีขีดความสามารถในการพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง และเกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรบุคคลที่มากด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรม และสานต่อการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ให้ประเทศ ส่วนโครงการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่น มีทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทำงานร่วมกันในการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะฝีมือ รวมทั้งพัฒนาความสามารถของแรงงานให้มีทักษะฝีมือสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก ซึ่งปัจจุบันตลาดแรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังประสบปัญหาทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ