นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีรัฐบาลจะจัดทำงบประมาณปี 2553 ขาดดุล 390,000 ล้านบาท ว่า รัฐบาลจำเป็นต้องจัดทำงบประมาณขาดดุลเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุน ทำให้เกิดความมั่นใจและมีการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน สำหรับงบประมาณปี 2553 ที่ขาดดุลมากนั้น เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำอย่างรุนแรง ซึ่งเงินดังกล่าวจะออก ในช่วงปลายปีนี้เป็นช่วงเดียวกับงบกระตุ้นเศรษฐกิจของต่างประเทศ และเมื่อเศรษฐกิจโลกหยุดชะลอตัวลง
ส่วนคำสั่งซื้อจากต่างประเทศจะเริ่มเข้ามา ทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยฟื้นตัวเร็วกว่าประเทศอื่น ประกอบกับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนหรืออาเซียนซัมมิท ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ น่าจะทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในอาเซียนมากขึ้น โดยเศรษฐกิจไทยปี 2553 อาจเป็นบวก แต่จะไม่มากเพียงร้อยละ 1-2 ส่วนปีนี้เศรษฐกิจอาจติดลบ อย่างไรก็ตาม หากปี 2553 เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้นรัฐบาลอาจจำเป็นต้องพิจารณาเพิ่มงบประมาณอีก แม้กรอบความยั่งยืนทางการคลังจะกำหนดไว้ว่าภาครัฐจะมีสัดส่วนหนี้ไม่เกินร้อยละ 50 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ก็ตาม แต่กรอบดังกล่าวมีไว้เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ก่อหนี้มากเท่านั้น
ส่วนคำสั่งซื้อจากต่างประเทศจะเริ่มเข้ามา ทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยฟื้นตัวเร็วกว่าประเทศอื่น ประกอบกับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนหรืออาเซียนซัมมิท ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ น่าจะทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในอาเซียนมากขึ้น โดยเศรษฐกิจไทยปี 2553 อาจเป็นบวก แต่จะไม่มากเพียงร้อยละ 1-2 ส่วนปีนี้เศรษฐกิจอาจติดลบ อย่างไรก็ตาม หากปี 2553 เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้นรัฐบาลอาจจำเป็นต้องพิจารณาเพิ่มงบประมาณอีก แม้กรอบความยั่งยืนทางการคลังจะกำหนดไว้ว่าภาครัฐจะมีสัดส่วนหนี้ไม่เกินร้อยละ 50 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ก็ตาม แต่กรอบดังกล่าวมีไว้เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ก่อหนี้มากเท่านั้น
