นายไพโรจน์ แสงภู่วงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมนายสถานีและผู้ดำเนินรายการวิทยุชุมชน ในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 170 คน เพื่อเน้นย้ำถึงบทบาทของวิทยุชุมชนกับความมั่นคงและสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ภายหลังมีวิทยุชุมชนอย่างน้อย 2 สถานี และเป็น 2 ขั้วการเมือง ใช้คลื่นความถี่ออกอากาศโจมตีกันไปมา รวมทั้งปลุกระดมให้สมาชิกก่อเหตุทะเลาะวิวาท จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน เมื่อคืนที่ผ่านมา (12 ก.พ.) ล่าสุด ทางจังหวัดได้ออกมาตรการคุมเข้มการดำเนินงานของวิทยุชุมชน 3 มาตรการ เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว คือ 1. แม้จะยังไม่มีกฎหมาย กสช. แต่วิทยุชุมชนทุกคลื่นจะต้องขึ้นทะเบียนขออนุญาตดำเนินการต่อจังหวัด จึงจะออกอากาศได้ 2. ห้ามนำเสนอข้อมูลที่หมิ่นสถาบัน และพาดพิงบุคคลที่ 3 หรือใช้วิทยุชุมชนปลุกระดมให้คนไปกระทำความผิด ห้ามให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ และหมิ่นประมาทผู้อื่น 3. ขอให้วิทยุชุมชนรวมกลุ่มกัน เพื่อตรวจสอบให้อยู่กรอบและกติกาที่เหมาะสม
เบื้องต้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยอมรับว่า ในพื้นที่มีวิทยุชุมชนที่ทำการปลุกระดมประชาชนอยู่หลายคลื่น ซึ่งนับจากนี้วิทยุชุมชนทุกคลื่นต้องปฏิบัติตามมาตการคุมเข้มของจังหวัด เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง มิฉะนั้นจะถือว่ามีความผิด และจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
เบื้องต้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยอมรับว่า ในพื้นที่มีวิทยุชุมชนที่ทำการปลุกระดมประชาชนอยู่หลายคลื่น ซึ่งนับจากนี้วิทยุชุมชนทุกคลื่นต้องปฏิบัติตามมาตการคุมเข้มของจังหวัด เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง มิฉะนั้นจะถือว่ามีความผิด และจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
