นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ในวันนี้ (10 ก.พ.) ราคาทองคำในประเทศปรับลดลงเล็กน้อยบาทละ 50 บาท ตามราคาในตลาดโลก โดยตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 14,700 บาท ขายออกบาทละ 14,800 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 14,492.96 บาท ขายออกบาทละ 15,200 บาท
นายจิตติ กล่าวว่า ราคาทองคำเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้นไปสูงมาก โดยทองคำแท่ง ซื้อบาทละ 14,900 บาท และทองคำแท่ง ขายบาทละ 15,300 บาท อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาทองคำในปีนี้มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก เนื่องจากประเมินว่ากองทุนเก็งกำไรยังหาจังหวะที่เข้ามาเก็งกำไรราคาทองคำ ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มขึ้นไปถึง 950-960 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ส่งผลให้ราคาขายทองคำในประเทศอาจปรับขึ้นถึง 15,500 บาทได้
ส่วนสถานการณ์ที่ประชาชนแห่เทขายทองคำนั้น นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เนื่องจากราคาทองคำปรับขึ้น-ลงไม่มาก แตกต่างจากช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ราคาทองคำผันผวน เปลี่ยนแปลงประมาณ 1,000 บาทเพียงช่วงหนึ่งสัปดาห์ ทำให้ประชาชนแห่เทขายเพื่อทำกำไร ขณะที่กรณีที่ตลาดอนุพันธ์ เปิดให้ซื้อขายทองคำล่วงหน้า หรือโกลด์ ฟิวเจอร์ส ยังไม่มีผลต่อร้านค้าทองคำ เพราะช่วงนี้ราคาทองคำแพงทำให้บรรยากาศการซื้อทองคำไม่คึกคัก ประชาชนส่วนใหญ่จะเน้นการขายทำกำไรมากกว่า ทำให้การลงทุนในตลาดอนุพันธ์ยังไม่คึกคักมากนัก
นายจิตติ กล่าวว่า ราคาทองคำเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้นไปสูงมาก โดยทองคำแท่ง ซื้อบาทละ 14,900 บาท และทองคำแท่ง ขายบาทละ 15,300 บาท อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาทองคำในปีนี้มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก เนื่องจากประเมินว่ากองทุนเก็งกำไรยังหาจังหวะที่เข้ามาเก็งกำไรราคาทองคำ ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มขึ้นไปถึง 950-960 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ส่งผลให้ราคาขายทองคำในประเทศอาจปรับขึ้นถึง 15,500 บาทได้
ส่วนสถานการณ์ที่ประชาชนแห่เทขายทองคำนั้น นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เนื่องจากราคาทองคำปรับขึ้น-ลงไม่มาก แตกต่างจากช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ราคาทองคำผันผวน เปลี่ยนแปลงประมาณ 1,000 บาทเพียงช่วงหนึ่งสัปดาห์ ทำให้ประชาชนแห่เทขายเพื่อทำกำไร ขณะที่กรณีที่ตลาดอนุพันธ์ เปิดให้ซื้อขายทองคำล่วงหน้า หรือโกลด์ ฟิวเจอร์ส ยังไม่มีผลต่อร้านค้าทองคำ เพราะช่วงนี้ราคาทองคำแพงทำให้บรรยากาศการซื้อทองคำไม่คึกคัก ประชาชนส่วนใหญ่จะเน้นการขายทำกำไรมากกว่า ทำให้การลงทุนในตลาดอนุพันธ์ยังไม่คึกคักมากนัก
