นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า จากการตรวจเช็คสต๊อกน้ำมันเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ก่อนการปรับขึ้นราคาตามภาษีสรรพสามิต ไม่พบสถานีบริการน้ำมันปฏิเสธการ จำหน่ายหรือจงใจกักตุน
นายเมตตา กล่าวว่า จากการตรวจสอบ ส่วนใหญ่สถานีบริการน้ำมันจะปฏิเสธการจำหน่ายน้ำมันกับรถยนต์ที่ ต้องการเติมใส่แกลลอน และมีปัญหาในส่วนที่น้ำมันหมดในช่วงเวลารอการขนส่ง เพราะมีประชาชนเติม มากกว่าปกติเท่านั้น แต่สถานการณ์ดังกล่าวก็กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งกรมฯ ยืนยันว่าผู้ค้าไม่ได้ผลกำไรจากการขึ้นภาษีครั้งนี้ เพราะอัตราที่ขึ้น 1.55 บาทต่อลิตร เป็นการขึ้นตามภาษีที่กระทรวงการคลังจัดเก็บ และกระทรวงพลังงานจะจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกลับไปอยู่ในอัตราเดิม
สำหรับความกังวลว่าจะมีการกักตุนน้ำมันเพื่อหวังผลกำไรนั้น อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า จากการ ตรวจสอบไม่พบว่ามีสถานีบริการน้ำมันปฏิเสธการจำหน่าย หรือจงใจกักตุน เพราะก่อนหน้านี้ทางภาครัฐได้ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบแล้วว่า การกักตุนน้ำมันอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ถือว่า เป็นโทษที่รุนแรง ไม่คุ้มค่าความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะหากมีการกักตุนก็ถือเป็นเข้าข่ายผิดกฎหมาย มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือหากตรวจพบปริมาณน้ำมันไม่เต็มหัวจ่ายก็เข้าข่ายโกง ทางด้านปริมาณ มีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถือว่าเป็นโทษที่รุนแรง
นายเมตตา กล่าวว่า จากการตรวจสอบ ส่วนใหญ่สถานีบริการน้ำมันจะปฏิเสธการจำหน่ายน้ำมันกับรถยนต์ที่ ต้องการเติมใส่แกลลอน และมีปัญหาในส่วนที่น้ำมันหมดในช่วงเวลารอการขนส่ง เพราะมีประชาชนเติม มากกว่าปกติเท่านั้น แต่สถานการณ์ดังกล่าวก็กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งกรมฯ ยืนยันว่าผู้ค้าไม่ได้ผลกำไรจากการขึ้นภาษีครั้งนี้ เพราะอัตราที่ขึ้น 1.55 บาทต่อลิตร เป็นการขึ้นตามภาษีที่กระทรวงการคลังจัดเก็บ และกระทรวงพลังงานจะจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกลับไปอยู่ในอัตราเดิม
สำหรับความกังวลว่าจะมีการกักตุนน้ำมันเพื่อหวังผลกำไรนั้น อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า จากการ ตรวจสอบไม่พบว่ามีสถานีบริการน้ำมันปฏิเสธการจำหน่าย หรือจงใจกักตุน เพราะก่อนหน้านี้ทางภาครัฐได้ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบแล้วว่า การกักตุนน้ำมันอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ถือว่า เป็นโทษที่รุนแรง ไม่คุ้มค่าความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะหากมีการกักตุนก็ถือเป็นเข้าข่ายผิดกฎหมาย มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือหากตรวจพบปริมาณน้ำมันไม่เต็มหัวจ่ายก็เข้าข่ายโกง ทางด้านปริมาณ มีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถือว่าเป็นโทษที่รุนแรง