ราคาน้ำมันดิ่งลงกว่า 9 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันอังคาร(27) หลังข้อมูลอันอ้างว้างทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลกได้กระพือความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ทางพลังงาน
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดที่ 41.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 4.15 ดอลลาร์หรือ 9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นการทรุดลงคิดเป็นเปอร์เซ็นต์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอน ลดลง 3.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.73 ดอลลาร์
ด้านบรรยากาศการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีบวกเพิ่มในช่วงแรก หลังคาดการณ์ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างอเมริกัน เอกซ์เพรส และยูไนเต็ด สเตท สตีล คอร์ป อาจมีผลประกอบการกำไรทั้งที่กำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ แต่จากนั้นก็ค่อย ๆ ปรับลดลง หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯในเดือนมกราคม ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 37.7 ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 1967
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 8,174.73 จุด เพิ่มขึ้น 58.70 จุด แนสแดคปิดที่ระดับ 1,504.90 จุด เพิ่มขึ้น 15.44 จุด และเอสแอนด์พีปิดที่ระดับ 845.71 จุด เพิ่มขึ้น 9.14 จุด.
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดที่ 41.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 4.15 ดอลลาร์หรือ 9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นการทรุดลงคิดเป็นเปอร์เซ็นต์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอน ลดลง 3.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.73 ดอลลาร์
ด้านบรรยากาศการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีบวกเพิ่มในช่วงแรก หลังคาดการณ์ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างอเมริกัน เอกซ์เพรส และยูไนเต็ด สเตท สตีล คอร์ป อาจมีผลประกอบการกำไรทั้งที่กำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ แต่จากนั้นก็ค่อย ๆ ปรับลดลง หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯในเดือนมกราคม ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 37.7 ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 1967
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 8,174.73 จุด เพิ่มขึ้น 58.70 จุด แนสแดคปิดที่ระดับ 1,504.90 จุด เพิ่มขึ้น 15.44 จุด และเอสแอนด์พีปิดที่ระดับ 845.71 จุด เพิ่มขึ้น 9.14 จุด.