การประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน หรือ กรอ.วันนี้ (21 ม.ค.) จะมีการเสนอมาตรการเร่งด่วน 3 ข้อ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
โดยข้อเสนอ 3 ข้อประกอบด้วย การเสริมสร้างสภาพคล่อง ที่จะขอให้กระทรวงการคลัง จัดสรรงบเพื่อสนับสนุนวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จำนวน 66,700 ล้านบาท ให้กับธนาคารพาณิชย์ผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ การเสนอขอลดภาษีเงินได้นิติบุคคลธรรมดา เหลือร้อยละ 20-25 และขยายระยะเวลาการนำผลขาดทุนสะสมมาหักภาษีเงินได้จาก 5 ปี เป็น 8 ปี
ด้านการสร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองและเศรษฐกิจ จะขอให้จัดตั้ง กรอ.ระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด เพื่อกลั่นกรองปัญหาก่อนเสนอส่วนกลาง
ส่วนปัญหาการว่างงานจะเสนอให้กระทรวงแรงงานจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนายจ้างและลูกจ้างที่ประสบปัญหาด้านแรงงาน แบบวันสต๊อปเซอร์วิส โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีแนวโน้มเลิกจ้างหรือการปิดกิจการสูง พร้อมขอให้รัฐบาลกำหนดมาตการจูงใจเพื่อชะลอ หรือบรรเทาปัญหาการเลิกจ้าง
นอกจากนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะเสนอเพิ่มเติมให้รัฐบาลตั้งกองทุนค้ำประกันการส่งออก วงเงิน 5,000-10,000 ล้านบาท
โดยข้อเสนอ 3 ข้อประกอบด้วย การเสริมสร้างสภาพคล่อง ที่จะขอให้กระทรวงการคลัง จัดสรรงบเพื่อสนับสนุนวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จำนวน 66,700 ล้านบาท ให้กับธนาคารพาณิชย์ผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ การเสนอขอลดภาษีเงินได้นิติบุคคลธรรมดา เหลือร้อยละ 20-25 และขยายระยะเวลาการนำผลขาดทุนสะสมมาหักภาษีเงินได้จาก 5 ปี เป็น 8 ปี
ด้านการสร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองและเศรษฐกิจ จะขอให้จัดตั้ง กรอ.ระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด เพื่อกลั่นกรองปัญหาก่อนเสนอส่วนกลาง
ส่วนปัญหาการว่างงานจะเสนอให้กระทรวงแรงงานจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนายจ้างและลูกจ้างที่ประสบปัญหาด้านแรงงาน แบบวันสต๊อปเซอร์วิส โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีแนวโน้มเลิกจ้างหรือการปิดกิจการสูง พร้อมขอให้รัฐบาลกำหนดมาตการจูงใจเพื่อชะลอ หรือบรรเทาปัญหาการเลิกจ้าง
นอกจากนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะเสนอเพิ่มเติมให้รัฐบาลตั้งกองทุนค้ำประกันการส่งออก วงเงิน 5,000-10,000 ล้านบาท
