รายงานข่าวบนเว็บไซต์ของ BBC ระบุว่า กองทัพเรือไทยจับกุมผู้ต้องการลี้ภัยชาวโรฮิงยา ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอิสลาม ของพม่า จำนวน 46 คน นอกชายฝั่งทางใต้ของไทย ในรายงานข่าวระบุว่า ผู้ลี้ภัยหลายร้อยคนถูกทรมาน และถูกทหารไทยปล่อยลอยไปในทะเล โดยผู้รอดชีวิตที่ลอยไปถึงอินโดนีเซีย และหมู่เกาะอันดามันของอินเดีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ออกมากล่าวหาว่า กองทัพไทยมัดแขนและลากออกไปในทะเล ในเรือที่ไม่มีเครื่องยนต์ และอาหาร
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ยืนยันว่ากองทัพเรือไม่มีการทารุณกรรมผู้อพยพโรฮิงยาส์อย่างนั้น ทั้งนี้ ตามหลักสากลและหลักมนุษยธรรม หากมีการยิงเรือข้าศึกล่มกลางทะเลแล้ว มีฝ่ายตรงข้ามลอยคอกลางทะเลยังต้องเข้าไปช่วยเหลือ ดังนั้นการที่กองทัพเรือจะทำอย่างที่ถูกกล่าวหานั้นคงจะเป็นไปไม่ได้
ส่วนภาพทหารเรือถือปืนควบคุมตัวผู้อพยพนอนคว่ำหน้าอยู่ชายฝั่งทะเล เกาะทรายแดง จ.ระนอง พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า ได้เห็นภาพแล้ว แต่ข้อเท็จจริงคือ ทหารเรือได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานเกาะทรายแดง ว่ามีกลุ่มผู้อพยพชาวโรฮิงยาหลายร้อยคนเข้ามาขอความช่วยเหลือ แต่เนื่องจากกำลังทหารมีน้อย และผู้อพยพมีมากกว่า 100 คน ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีควบคุมตัวเพื่อความปลอดภัย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ยืนยันว่ากองทัพเรือไม่มีการทารุณกรรมผู้อพยพโรฮิงยาส์อย่างนั้น ทั้งนี้ ตามหลักสากลและหลักมนุษยธรรม หากมีการยิงเรือข้าศึกล่มกลางทะเลแล้ว มีฝ่ายตรงข้ามลอยคอกลางทะเลยังต้องเข้าไปช่วยเหลือ ดังนั้นการที่กองทัพเรือจะทำอย่างที่ถูกกล่าวหานั้นคงจะเป็นไปไม่ได้
ส่วนภาพทหารเรือถือปืนควบคุมตัวผู้อพยพนอนคว่ำหน้าอยู่ชายฝั่งทะเล เกาะทรายแดง จ.ระนอง พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า ได้เห็นภาพแล้ว แต่ข้อเท็จจริงคือ ทหารเรือได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานเกาะทรายแดง ว่ามีกลุ่มผู้อพยพชาวโรฮิงยาหลายร้อยคนเข้ามาขอความช่วยเหลือ แต่เนื่องจากกำลังทหารมีน้อย และผู้อพยพมีมากกว่า 100 คน ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีควบคุมตัวเพื่อความปลอดภัย
