งบประมาณกว่า 18,000 ล้านบาท จากงบกลางปี 11,600 ล้านบาท ถูกจัดสรรเพื่อช่วยด้านค่าครองชีพให้สมาชิกกองทุนประกันสังคม 8 ล้านคน และบุคลากรภาครัฐกว่า 1.4 ล้านคน ที่มีเงินได้น้อยกว่า 14,000 บาท โดยจะได้รับเงินคนละ 2,000 บาท ซึ่งนายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า จะเริ่มจ่ายได้ในเดือนเมษายนนี้ ส่วนงบประมาณที่เหลือจะถูกจัดสรรตามโครงการเพื่อลดค่าครองชีพ 18 โครงการ เช่น การต่ออายุ 6 มาตรการ 6 เดือนฯ ยกเว้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน วงเงิน 13,000 ล้านบาท การจัดเบี้ยยังชีพคนชราคนละ 500 บาท วงเงิน 9,000 ล้านบาท ที่คาดว่าจะช่วยได้ 3 ล้านคน ค่าตอบแทนพิเศษอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) คนละ 600 บาท วงเงิน 3,000 ล้านบาท ที่คาดว่าจะช่วยได้ 8 แสนคน
นอกจากนี้ ยังมีวงเงินอีก 6,900 ล้านบาท ที่กระทรวงแรงงานจะนำไปใช้ฝึกงานให้กับผู้ถูกเลิกจ้างประมาณ 190,000 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อว่าเม็ดเงินจำนวนนี้จะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายได้ดี
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า งบประมาณกลางปีลดลงจากกรอบเดิมที่รัฐบาลเสนอไว้ 120,000 ล้านบาท เพราะยึดตามหลักการที่ต้องเกิดการใช้จ่ายจริง และเตรียมนำเข้าคณะรัฐมนตรีอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นกฎหมายบังคับใช้สิ้นเดือนนี้ เพื่อเม็ดเงินจะได้เข้าสู่ระบบปลายเดือนมีนาคมนี้
นอกจากนี้ ยังมีวงเงินอีก 6,900 ล้านบาท ที่กระทรวงแรงงานจะนำไปใช้ฝึกงานให้กับผู้ถูกเลิกจ้างประมาณ 190,000 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อว่าเม็ดเงินจำนวนนี้จะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายได้ดี
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า งบประมาณกลางปีลดลงจากกรอบเดิมที่รัฐบาลเสนอไว้ 120,000 ล้านบาท เพราะยึดตามหลักการที่ต้องเกิดการใช้จ่ายจริง และเตรียมนำเข้าคณะรัฐมนตรีอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นกฎหมายบังคับใช้สิ้นเดือนนี้ เพื่อเม็ดเงินจะได้เข้าสู่ระบบปลายเดือนมีนาคมนี้