ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งยกคำร้องกรณีผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้ร้องขอให้ศาลวินิจฉัย สิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ น.ส.สรชา วีรชาติวัฒนา ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จังหวัดสมุทรปราการ พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากไม่ปรากฏชื่อของผู้สมัครดังกล่าว เป็นสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ ในข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำให้ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 101 (3) ของรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งเพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ศาลได้ยกคำร้องดังกล่าว เนื่องจากการเบิกความของนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ นายทะเบียนพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า น.ส.สรชา เป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2547 จนถึงปัจจุบัน และที่ผ่านมา ตรวจสอบพบว่ามีชื่อสมาชิกพรรคตกหล่นจากฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หลายคน จึงได้แจ้งไปยัง กกต.เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2551 ซึ่งรวมถึงชื่อของ น.ส.สรชา ด้วย และประกอบกับผู้ร้องยังแถลงรับว่า น.ส.สรชา เคยสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สมุทรปราการ มาแล้ว 2 ครั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นพยานหลักฐานของ น.ส.สรชา จึงมีน้ำหนักให้รับฟังพิสูจน์ได้ว่า น.ส.สรชา เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2547 จนถึงปัจจุบัน ดังนั้น น.ส.สรชา จึงเป็นผู้มีสิทธิสมัคร รับเลือกตั้ง ส.ส. และไม่ต้องห้ามตามมาตรา 101 (3) ของรัฐธรรมนูญปี 2550
ทั้งนี้ ศาลได้ยกคำร้องดังกล่าว เนื่องจากการเบิกความของนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ นายทะเบียนพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า น.ส.สรชา เป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2547 จนถึงปัจจุบัน และที่ผ่านมา ตรวจสอบพบว่ามีชื่อสมาชิกพรรคตกหล่นจากฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หลายคน จึงได้แจ้งไปยัง กกต.เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2551 ซึ่งรวมถึงชื่อของ น.ส.สรชา ด้วย และประกอบกับผู้ร้องยังแถลงรับว่า น.ส.สรชา เคยสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สมุทรปราการ มาแล้ว 2 ครั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นพยานหลักฐานของ น.ส.สรชา จึงมีน้ำหนักให้รับฟังพิสูจน์ได้ว่า น.ส.สรชา เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2547 จนถึงปัจจุบัน ดังนั้น น.ส.สรชา จึงเป็นผู้มีสิทธิสมัคร รับเลือกตั้ง ส.ส. และไม่ต้องห้ามตามมาตรา 101 (3) ของรัฐธรรมนูญปี 2550