นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน และนางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นต้น ได้มาหารือร่วมกับนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อรับทราบข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจ และใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
โดยภายหลังใช้เวลาหารือกันประมาณ 1ชั่วโมงครึ่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากตั้งใจให้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจแล้วเสร็จโดยเร็ว นายกรัฐมนตรียอมรับว่า เศรษฐกิจครึ่งปีแรกจะเป็นภาระหนักของรัฐบาล แต่หลังไตรมาส 3 ทุกอย่างจะดีขึ้น และการหารือกับผู้บริหาร ธปท.วันนี้ เพื่อให้มีความเข้าใจและทิศทางการทำงานให้ตรงกัน แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การแทรกแซง เพราะคณะกรรมการนโยบายการเงิน จะเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย
สำหรับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ธปท.ได้ปรับลดจากปี 2552 เหลือเติบโตเพียงร้อยละ 0.5-2.5 จากที่เคยประมาณการไว้ที่ร้อยละ 3.8-5 ซึ่งได้ขอให้ ธปท.ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้ผันผวน ให้สามารถแข่งขันกับเพื่อนบ้านได้ ขณะรัฐบาลจะใช้ธนาคารของรัฐ เป็นเครื่องมือในการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้เอสเอ็มอี และธุรกิจที่มีปัญหา รวมทั้งจะพยายามกระตุ้นให้แบงก์พาณิชย์ปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยให้ค้ำประกันสินเชื่อเพื่อลดความเสี่ยง
โดยภายหลังใช้เวลาหารือกันประมาณ 1ชั่วโมงครึ่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากตั้งใจให้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจแล้วเสร็จโดยเร็ว นายกรัฐมนตรียอมรับว่า เศรษฐกิจครึ่งปีแรกจะเป็นภาระหนักของรัฐบาล แต่หลังไตรมาส 3 ทุกอย่างจะดีขึ้น และการหารือกับผู้บริหาร ธปท.วันนี้ เพื่อให้มีความเข้าใจและทิศทางการทำงานให้ตรงกัน แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การแทรกแซง เพราะคณะกรรมการนโยบายการเงิน จะเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย
สำหรับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ธปท.ได้ปรับลดจากปี 2552 เหลือเติบโตเพียงร้อยละ 0.5-2.5 จากที่เคยประมาณการไว้ที่ร้อยละ 3.8-5 ซึ่งได้ขอให้ ธปท.ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้ผันผวน ให้สามารถแข่งขันกับเพื่อนบ้านได้ ขณะรัฐบาลจะใช้ธนาคารของรัฐ เป็นเครื่องมือในการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้เอสเอ็มอี และธุรกิจที่มีปัญหา รวมทั้งจะพยายามกระตุ้นให้แบงก์พาณิชย์ปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยให้ค้ำประกันสินเชื่อเพื่อลดความเสี่ยง
