นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) กล่าวภายหลังเดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในสถานบันเทิงซานติก้าผับ ย่านเอกมัย เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากว่า ตนทราบข่าวทางสื่อมวลชนว่าสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์จำนวนมาก เพราะสถานบันเทิงดังกล่าวมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว จึงต้องการมาดูให้เห็นกับตา เพื่อจะได้ติดตามการสอบสวนในส่วนของการทำคดีที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 5 มกราคมนี้ จะมอบหมายให้นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อความสบายใจของบรรดาญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นอกจากนี้ จะนำข้อมูลที่ได้ในวันนี้ไปตรวจสอบการก่อสร้าง หรือการขออนุญาตใช้อาคารด้วยว่าได้ทำตามกฎหมายหรือไม่ เบื้องต้นรู้สึกแปลกใจที่เห็นว่าสถานบันเทิงขนาดใหญ่แต่กลับมีทางเข้าออกมีเพียงทางเดียว ขณะที่บริเวณหน้าต่างก็มีเหล็กดัดด้วย
นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จากการคุยกับนางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุเช่นกัน พบว่าจากนี้ไปจะต้องมีการไปตรวจสอบกฎหมายประกันอัคคีภัย ให้มีหน้าที่ตรวจสอบร่วมกับภาครัฐด้วย ว่าอาคารที่จะทำประกันมีการปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และรายงานให้ภาครัฐทราบ ไม่ใช่แค่ขายประกันเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคิดเป็นวงจร ทั้งระบบ ซึ่งจากนี้ไปต้องทำงานเชิงรุก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีก
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 5 มกราคมนี้ จะมอบหมายให้นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อความสบายใจของบรรดาญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นอกจากนี้ จะนำข้อมูลที่ได้ในวันนี้ไปตรวจสอบการก่อสร้าง หรือการขออนุญาตใช้อาคารด้วยว่าได้ทำตามกฎหมายหรือไม่ เบื้องต้นรู้สึกแปลกใจที่เห็นว่าสถานบันเทิงขนาดใหญ่แต่กลับมีทางเข้าออกมีเพียงทางเดียว ขณะที่บริเวณหน้าต่างก็มีเหล็กดัดด้วย
นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จากการคุยกับนางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุเช่นกัน พบว่าจากนี้ไปจะต้องมีการไปตรวจสอบกฎหมายประกันอัคคีภัย ให้มีหน้าที่ตรวจสอบร่วมกับภาครัฐด้วย ว่าอาคารที่จะทำประกันมีการปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และรายงานให้ภาครัฐทราบ ไม่ใช่แค่ขายประกันเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคิดเป็นวงจร ทั้งระบบ ซึ่งจากนี้ไปต้องทำงานเชิงรุก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีก