กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ธันวาคม พุ่งสูงขึ้นแตะที่ 586,000 ราย จาก 556,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 30,000 ราย ภายในสัปดาห์เดียว ทำสถิติสูงสุดในรอบ26ปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 560,000 ราย เนื่องจากบริษัทหลายแห่งในสหรัฐฯ ต่างพากันปรับลดพนักงาน และความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าตลาดแรงงาน กำลังอยู่ในสถานการณ์อ่อนแอในยามที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า การปลดพนักงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งขึ้นสูงสุด นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2525
อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เนื่องจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลงสู่ระดับ 4.37 ล้านราย จากระดับ 4.39 ล้านรายในสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นสู่ 4.4 ล้านราย ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเป็นตัวบ่งชี้สภาพตลาดแรงงานและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้เป็นอย่างดี โดยเมื่อปีที่แล้วสหรัฐฯ มียอดคนว่างงานที่ขอรับสวัสดิการอยู่ที่ 353,000 ราย
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า การปลดพนักงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งขึ้นสูงสุด นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2525
อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เนื่องจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลงสู่ระดับ 4.37 ล้านราย จากระดับ 4.39 ล้านรายในสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นสู่ 4.4 ล้านราย ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเป็นตัวบ่งชี้สภาพตลาดแรงงานและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้เป็นอย่างดี โดยเมื่อปีที่แล้วสหรัฐฯ มียอดคนว่างงานที่ขอรับสวัสดิการอยู่ที่ 353,000 ราย