ศาลอาญารัชดาพิพากษาคดีเผาพานรัฐธรรมนูญ โดยมีนายชัยฤทธิ์ ชาวิเศษ (***) และนายองอาจ วิจิตรตรานนท์ (***) และนายบุญสิน หยกทิพย์ เป็นจำเลยที่ 1-3
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2550 ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีผู้วางเพลิงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และพบจำเลยที่ 1 ส่งน้ำมันสน แอลกอฮอล์ เศษผ้า และเทียนไข ให้กับจำเลยที่ 2 และ 3 ที่ปีนขึ้นไปบนพานรัฐธรรมนูญ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อตำรวจนครบาลสำราญราษฏร์ สั่งให้ลงจากพานรัฐธรรมนูญ แต่จำเลยที่ 2 และ 3 ไม่ยอมทำตาม ก่อนจำเลยที่ 3 จะขว้างคีมใส่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บ
ศาลพิเคราะห์ เห็นว่า จำเลยที่ 1-3 มีความผิดฐานร่วมกันวางเพลิง จำเลยที่ 2 และ 3 มีความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน และจำเลยที่ 3 มีความผิดฐานขัดขวางเจ้าพนักงาน ให้จำเลยที่ 1-3 จำคุก 1 ปี ปรับ 6,000 บาท แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง และให้โอกาสปรับตัวสู่สังคม โดยให้รอลงอาญา 2 ปี และรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติทุก 3 เดือน ทำงานบริการสังคมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ภายใน 1 ปี และให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าปรับ 3,000 บาท จำเลยที่ 2 ปรับ 3,250 บาท และจำเลยที่ 3 ปรับ 5,750 บาท
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2550 ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีผู้วางเพลิงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และพบจำเลยที่ 1 ส่งน้ำมันสน แอลกอฮอล์ เศษผ้า และเทียนไข ให้กับจำเลยที่ 2 และ 3 ที่ปีนขึ้นไปบนพานรัฐธรรมนูญ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อตำรวจนครบาลสำราญราษฏร์ สั่งให้ลงจากพานรัฐธรรมนูญ แต่จำเลยที่ 2 และ 3 ไม่ยอมทำตาม ก่อนจำเลยที่ 3 จะขว้างคีมใส่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บ
ศาลพิเคราะห์ เห็นว่า จำเลยที่ 1-3 มีความผิดฐานร่วมกันวางเพลิง จำเลยที่ 2 และ 3 มีความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน และจำเลยที่ 3 มีความผิดฐานขัดขวางเจ้าพนักงาน ให้จำเลยที่ 1-3 จำคุก 1 ปี ปรับ 6,000 บาท แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง และให้โอกาสปรับตัวสู่สังคม โดยให้รอลงอาญา 2 ปี และรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติทุก 3 เดือน ทำงานบริการสังคมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ภายใน 1 ปี และให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าปรับ 3,000 บาท จำเลยที่ 2 ปรับ 3,250 บาท และจำเลยที่ 3 ปรับ 5,750 บาท