นักดื่มในอินโดนีเซียอาจต้องฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่แบบคอแห้งผาก เพราะธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร บาร์และคลับต่างๆ กำลังประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างรุนแรง โดยเหล้าชั้นดียี่ห้อดังขาดตลาดไปหมด ในขณะที่ยี่ห้อระดับรองๆ หรือกระทั่งที่มีคุณภาพย่ำแย่กลับมีราคาทะยานสูงขึ้น หลังจากที่รัฐบาลลงดาบเอาจริงจนตลาดมืดที่เคยเฟื่องฟูต้องซบเซา
มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการล่าสุดในการขจัดปัญหาคอร์รัปชั่นของอินโดนีเซีย โดยกระทรวงการคลังดำเนินการขัดขวางไม่ให้มีการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างเจ้าหน้าที่ศุลกากรกับผู้นำเข้าเหล้าเถื่อนที่พยายามหลบเลี่ยงภาษีนำเข้าซึ่งเก็บในอัตราสูงหลายร้อยเปอร์เซ็นต์
การจัดการอย่างเด็ดขาดกับเหล้าเถื่อนจึงทำให้ราคาขายปลีกเหล้านำเข้าพุ่งทะยานขึ้นถึง 400 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในอินโดนีเซียนั้น เหล้านำเข้าหมายถึงสุราแทบทุกอย่าง ยกเว้นเพียงเบียร์ที่ผลิตในท้องถิ่น และเครื่องดื่มมึนเมาที่ผสมแอลกอฮอล์ทำจากข้าวและกลิ่นสังเคราะห์
ผู้ค้าปลีกรายหนึ่งบอกว่า แม้แต่ไวน์แดงราคาถูกที่สุดจากออสเตรเลีย ที่ขายกันในแดนจิงโจ้เพียงขวดละ 6 ดอลลาร์ ก็เพิ่มขึ้นเป็น 27 ดอลลาร์ทีเดียวในแดนอิเหนาเวลานี้
"เมื่อปี 2007 เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ในอินโดนีเซียราว 80 เปอร์เซ็นต์เป็นของเถื่อนที่ลักลอบนำเข้าประเทศ และขายกันในตลาดมืดในราคาถูก" สเตฟานุส โยฮันเนส ซาบาร์โน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของพีที ซารินาห์ ผู้นำเข้าเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์อย่างถูกต้องเพียงรายเดียวของอินโดนีเซียระบุและเสริมว่า
"ตอนนี้ผู้จัดจำหน่ายกำลังพากันมาขอซื้อเครื่องดื่มจากเรา แต่โควตาการนำเข้าทั้งไวน์และเหล้าที่มีอยู่ทุกวันนี้ไม่เพียงพอจะจัดสรรให้ทุกรายได้อย่างแน่นอน"
ในขณะที่ปัญหาดังกล่าวอาจไม่กระทบชาวอินโดนีเซียซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมและไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ตามคำสอนทางศาสนา แต่ส่งผลอย่างหนักต่อแหล่งท่องเที่ยวอย่างเช่นเกาะบาหลีและเมืองหลวงคือกรุงจาการ์ตา และในขณะที่เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่กำลังงวดเข้ามาเต็มที หลายคนจึงต้องหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือไม่ก็ต้องงดจัดงานไปเสีย
มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการล่าสุดในการขจัดปัญหาคอร์รัปชั่นของอินโดนีเซีย โดยกระทรวงการคลังดำเนินการขัดขวางไม่ให้มีการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างเจ้าหน้าที่ศุลกากรกับผู้นำเข้าเหล้าเถื่อนที่พยายามหลบเลี่ยงภาษีนำเข้าซึ่งเก็บในอัตราสูงหลายร้อยเปอร์เซ็นต์
การจัดการอย่างเด็ดขาดกับเหล้าเถื่อนจึงทำให้ราคาขายปลีกเหล้านำเข้าพุ่งทะยานขึ้นถึง 400 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในอินโดนีเซียนั้น เหล้านำเข้าหมายถึงสุราแทบทุกอย่าง ยกเว้นเพียงเบียร์ที่ผลิตในท้องถิ่น และเครื่องดื่มมึนเมาที่ผสมแอลกอฮอล์ทำจากข้าวและกลิ่นสังเคราะห์
ผู้ค้าปลีกรายหนึ่งบอกว่า แม้แต่ไวน์แดงราคาถูกที่สุดจากออสเตรเลีย ที่ขายกันในแดนจิงโจ้เพียงขวดละ 6 ดอลลาร์ ก็เพิ่มขึ้นเป็น 27 ดอลลาร์ทีเดียวในแดนอิเหนาเวลานี้
"เมื่อปี 2007 เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ในอินโดนีเซียราว 80 เปอร์เซ็นต์เป็นของเถื่อนที่ลักลอบนำเข้าประเทศ และขายกันในตลาดมืดในราคาถูก" สเตฟานุส โยฮันเนส ซาบาร์โน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของพีที ซารินาห์ ผู้นำเข้าเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์อย่างถูกต้องเพียงรายเดียวของอินโดนีเซียระบุและเสริมว่า
"ตอนนี้ผู้จัดจำหน่ายกำลังพากันมาขอซื้อเครื่องดื่มจากเรา แต่โควตาการนำเข้าทั้งไวน์และเหล้าที่มีอยู่ทุกวันนี้ไม่เพียงพอจะจัดสรรให้ทุกรายได้อย่างแน่นอน"
ในขณะที่ปัญหาดังกล่าวอาจไม่กระทบชาวอินโดนีเซียซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมและไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ตามคำสอนทางศาสนา แต่ส่งผลอย่างหนักต่อแหล่งท่องเที่ยวอย่างเช่นเกาะบาหลีและเมืองหลวงคือกรุงจาการ์ตา และในขณะที่เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่กำลังงวดเข้ามาเต็มที หลายคนจึงต้องหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือไม่ก็ต้องงดจัดงานไปเสีย