นายมัลคอล์ม เฟรเซอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียแนะแอฟริกาใต้ งดส่งกระแสไฟฟ้าให้ซิมบับเวเพื่อกดดันให้นายโรเบิร์ต มูกาเบ ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี
นายเฟรเซอร์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในช่วงที่นายมูกาเบขึ้นครองอำนาจในซิมบับเวตั้งแต่ปี 2523 หลังจากชนกลุ่มน้อยผิวขาวปกครองซิมบับเวมาหลายทศวรรษ นายเฟรเซอร์ กล่าวกับสถานีวิทยุของบรรษัทกระจายเสียงออสเตรเลีย (เอบีซี) แนะให้ใช้มาตรการทางทหารทุกอย่างโค่นนายมูกาเบ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือประเทศเพื่อนบ้านนำโดยแอฟริกาใต้พร้อมจะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เพราะวิกฤตในซิมบับเวที่มีทั้งคนอดอยากและอหิวาตกโรคระบาดไม่สามารถแก้ได้โดยอาศัยเพียงชาวตะวันตกเท่านั้น
นายเฟรเซอร์ แนะว่า หากแอฟริกาใต้งดการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ซิมบับเวน่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่าการใช้กำลังทหาร อย่างไรก็ดี แม้การใช้กำลังทางทหารโดยตรงจะส่งผลต่อประชาชนอย่างมาก แต่หากไม่ทำอะไรเลยจะยิ่งเกิดผลเสียหายร้ายแรง
ด้านนายมูกาเบ วัย 84 ปี ยืนยันในการประชุมพรรครัฐบาลประจำปีเมื่อวันศุกร์ว่า จะไม่มีวันยอมแพ้เป็นอันขาด เพราะซิมบับเวเป็นของเขา
นายเฟรเซอร์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในช่วงที่นายมูกาเบขึ้นครองอำนาจในซิมบับเวตั้งแต่ปี 2523 หลังจากชนกลุ่มน้อยผิวขาวปกครองซิมบับเวมาหลายทศวรรษ นายเฟรเซอร์ กล่าวกับสถานีวิทยุของบรรษัทกระจายเสียงออสเตรเลีย (เอบีซี) แนะให้ใช้มาตรการทางทหารทุกอย่างโค่นนายมูกาเบ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือประเทศเพื่อนบ้านนำโดยแอฟริกาใต้พร้อมจะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เพราะวิกฤตในซิมบับเวที่มีทั้งคนอดอยากและอหิวาตกโรคระบาดไม่สามารถแก้ได้โดยอาศัยเพียงชาวตะวันตกเท่านั้น
นายเฟรเซอร์ แนะว่า หากแอฟริกาใต้งดการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ซิมบับเวน่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่าการใช้กำลังทหาร อย่างไรก็ดี แม้การใช้กำลังทางทหารโดยตรงจะส่งผลต่อประชาชนอย่างมาก แต่หากไม่ทำอะไรเลยจะยิ่งเกิดผลเสียหายร้ายแรง
ด้านนายมูกาเบ วัย 84 ปี ยืนยันในการประชุมพรรครัฐบาลประจำปีเมื่อวันศุกร์ว่า จะไม่มีวันยอมแพ้เป็นอันขาด เพราะซิมบับเวเป็นของเขา