ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอแบคโพลล์ ได้เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ 17 จังหวัดของประเทศ จำนวน 3,516 ตัวอย่าง เกี่ยวกับดัชนีความสุขภายหลังการเปลี่ยนขั้วการเมือง ผลปรากฏว่า ความสุขของประชาชนได้เพิ่มขึ้นจาก 4.84 ในช่วงเดือนตุลาคม มาอยู่ที่ 6.55 จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งถือว่าเป็นค่าความสุขที่สูงที่สุดตั้งแต่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หรือตั้งแต่ต้นปี 2551 โดยพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 79.7 นอนหลับได้ค่อนข้างสนิท ถึงนอนหลับได้สนิทขึ้น หลังการเมืองเปลี่ยนขั้ว ในขณะที่ร้อยละ 9.7 นอนหลับได้ระดับปานกลาง และร้อยละ 10.6 นอนไม่ค่อยหลับ ถึงนอนไม่หลับเลย
นอกจากนี้ ประชาชนจำนวนมากหรือร้อยละ 38.2 คิดว่าทิศทางการเมืองจะดีขึ้น หลังจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ในขณะที่ร้อยละ 28.2 คิดว่าจะแย่ลง และร้อยละ 33.6 ยังไม่มีความเห็นในเรื่องนี้
ผลการสำรวจยังพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.7 สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อจำแนกข้อมูลออกตามพื้นที่ พบว่าคนกรุงเทพมหานครเกินครึ่งหนึ่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หรือร้อยละ 51.1 ที่สนับสนุน แต่ร้อยละ 48.9 ไม่สนับสนุน ขณะที่คนในเขตเมืองหรือเขตเทศบาลส่วนใหญ่ร้อยละ 65.9 สนับสนุน และประชาชนนอกเขตเทศบาล หรือร้อยละ 59.2 สนับสนุน
อย่างไรก็ตาม หลังการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองใหม่ ผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.1 เลือกที่จะหวังและก้าวต่อไปข้างหน้า ในขณะที่ร้อยละ 40.9 ยังคงกังวลและกลัวต่อเหตุการณ์ข้างหน้าของประเทศไทย
นอกจากนี้ ประชาชนจำนวนมากหรือร้อยละ 38.2 คิดว่าทิศทางการเมืองจะดีขึ้น หลังจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ในขณะที่ร้อยละ 28.2 คิดว่าจะแย่ลง และร้อยละ 33.6 ยังไม่มีความเห็นในเรื่องนี้
ผลการสำรวจยังพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.7 สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อจำแนกข้อมูลออกตามพื้นที่ พบว่าคนกรุงเทพมหานครเกินครึ่งหนึ่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หรือร้อยละ 51.1 ที่สนับสนุน แต่ร้อยละ 48.9 ไม่สนับสนุน ขณะที่คนในเขตเมืองหรือเขตเทศบาลส่วนใหญ่ร้อยละ 65.9 สนับสนุน และประชาชนนอกเขตเทศบาล หรือร้อยละ 59.2 สนับสนุน
อย่างไรก็ตาม หลังการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองใหม่ ผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.1 เลือกที่จะหวังและก้าวต่อไปข้างหน้า ในขณะที่ร้อยละ 40.9 ยังคงกังวลและกลัวต่อเหตุการณ์ข้างหน้าของประเทศไทย
