การสัมมนาใหญ่ประจำปีครั้งที่ 2 ของสถาบันสัญญา ธรรมศักดิ์ เพื่อประชาธิปไตย ภายใต้หัวข้อ "นิติรัฐในสังคมไทย" นายอุระ หวังอ้อมกลาง อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ยอมรับว่าระบบตุลาการภิวัตน์ เป็นแนวคิดของนักกฎหมายที่วางแนวให้ผู้พิพากษา ได้พัฒนาการตัดสินคดี และการเขียนคำพิพากษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม พร้อมกับยกการตัดสินคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ขึ้นมาชี้ให้เห็นถึงกระบวนการพิจารณา ที่มีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนไปจากเดิม โดยไม่มีการเบิกความโจทก์และจำเลย เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง และศาลฎีกาได้พิจารณาความผิดแล้ว พร้อมกันนั้นผลของคดียังสามารถแก้ปัญหาสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง และบ้านเมืองได้ด้วย
นายอุระ เห็นว่าตุลาการภิวัตน์ไม่เพียงทำหน้าที่ถ่วงดุลอำนาจ แต่สร้างบทบาทของตุลาการ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง โดยมอบอำนาจให้ตุลาการเข้าไปมีส่วนร่วมในการถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร กำกับการดำเนินการของฝ่ายบริหาร ตัดสินนโยบายสาธารณะ และตัดสินเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยเฉพาะการทำหน้าที่สรรหาผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งฝ่ายตุลาการก็ต้องยอมรับการถูกตรวจสอบความเป็นกลาง
นายอุระ เห็นว่าตุลาการภิวัตน์ไม่เพียงทำหน้าที่ถ่วงดุลอำนาจ แต่สร้างบทบาทของตุลาการ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง โดยมอบอำนาจให้ตุลาการเข้าไปมีส่วนร่วมในการถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร กำกับการดำเนินการของฝ่ายบริหาร ตัดสินนโยบายสาธารณะ และตัดสินเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยเฉพาะการทำหน้าที่สรรหาผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งฝ่ายตุลาการก็ต้องยอมรับการถูกตรวจสอบความเป็นกลาง