นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. มีมติขยายเพดานเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ของกลุ่มเบนซินและดีเซล จาก 4 บาทต่อลิตร เป็น 7 บาทต่อลิตร
โดยน้ำมันเบนซิน 95 เก็บเพิ่มเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ทันที 7 บาทต่อลิตร หลังพบว่าค่าการตลาดน้ำมัน สูงถึง 6.35 บาทต่อลิตร พร้อมทั้งชดเชยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 เพิ่มอีก 30 สตางค์ต่อลิตร รวมเป็น 45 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาด อี 20 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร มีผลพรุ่งนี้ (16 ธ.ค.)
การเก็บเงินเพิ่มและขยายเพดานครั้งนี้ ส่งผลให้โครงสร้างส่งเสริมการใช้เอทานอลและไบโอดีเซล อยู่ในระดับที่เหมาะสมขึ้น โดยจะมีเงินหมุนเวียนในกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่มเป็น 103 ล้านบาทต่อวัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในประเทศให้มีส่วนต่างจากราคาน้ำมันปกติ
โดยน้ำมันเบนซิน 95 เก็บเพิ่มเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ทันที 7 บาทต่อลิตร หลังพบว่าค่าการตลาดน้ำมัน สูงถึง 6.35 บาทต่อลิตร พร้อมทั้งชดเชยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 เพิ่มอีก 30 สตางค์ต่อลิตร รวมเป็น 45 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาด อี 20 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร มีผลพรุ่งนี้ (16 ธ.ค.)
การเก็บเงินเพิ่มและขยายเพดานครั้งนี้ ส่งผลให้โครงสร้างส่งเสริมการใช้เอทานอลและไบโอดีเซล อยู่ในระดับที่เหมาะสมขึ้น โดยจะมีเงินหมุนเวียนในกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่มเป็น 103 ล้านบาทต่อวัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในประเทศให้มีส่วนต่างจากราคาน้ำมันปกติ
