นายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ ของออสเตรเลียยืนยัน ออสเตรเลียจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างน้อยร้อยละ 5-15 เมื่อเทียบกับก๊าซที่ปล่อยออกมา เมื่อปี 2543 โดยแผนการนี้จะต้องทำให้สำเร็จก่อนปี 2563 หรือในอีก 12 ปีข้างหน้า เพื่อรับมือปัญหาโลกร้อน
นายกรัฐมนตรีรัดด์ กล่าวว่า ในฐานะที่ออสเตรเลียเป็นทวีปหนึ่งที่ร้อนและแห้งแล้งที่สุดในโลก จึงไม่อาจเพิกเฉยและทนเห็นโลกมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
ผู้นำออสเตรเลียยังยืนยันถ้าภาครัฐไม่มีมาตรการรับมือในเรื่องนี้ ก็คาดว่า ออสเตรเลียจะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 ระหว่างปี 2543-2563 และที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหตุใดรัฐบาลออสเตรเลียไม่ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้มากกว่านี้
นายกรัฐมนตรีรัดด์ กล่าวว่า ที่ไม่ได้ตั้งเป้าให้สูงกว่านี้ เพราะต้องคำนึงถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจควบคู่กันไปด้วย ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังถดถอย
นายกรัฐมนตรีรัดด์ กล่าวว่า ในฐานะที่ออสเตรเลียเป็นทวีปหนึ่งที่ร้อนและแห้งแล้งที่สุดในโลก จึงไม่อาจเพิกเฉยและทนเห็นโลกมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
ผู้นำออสเตรเลียยังยืนยันถ้าภาครัฐไม่มีมาตรการรับมือในเรื่องนี้ ก็คาดว่า ออสเตรเลียจะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 ระหว่างปี 2543-2563 และที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหตุใดรัฐบาลออสเตรเลียไม่ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้มากกว่านี้
นายกรัฐมนตรีรัดด์ กล่าวว่า ที่ไม่ได้ตั้งเป้าให้สูงกว่านี้ เพราะต้องคำนึงถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจควบคู่กันไปด้วย ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังถดถอย
