ราคาน้ำมันขยับเพิ่มกว่าร้อยละ 10 ในวันพฤหัสบดี ขึ้นมาอยู่ที่บาร์เรลละเกือบ 48 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายหลังจากที่ประธานกลุ่มโอเปกเรียกร้องให้ลดการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับเงินยูโรดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์
นอกจากนี้ การที่ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียพร้อมร่วมมือกับองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก ลดการผลิตน้ำมันลง ยิ่งมีส่วนผลักดันให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้น
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ อยู่ที่บาร์เรลละ 47.98 ดอลลาร์ ดีดขึ้นมาจากที่เกือบอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียว นับตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ 47.39 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมา 4.99 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันปรับลดลงมาเกือบ 100 ดอลลาร์ จากที่เคยพุ่งทำสถิติสูงสุด 147.27 ดอลลาร์ เมื่อเดือนกรกฎาคม เนื่องจากวิกฤตการเงินโลกส่งผลกระทบให้การใช้น้ำมันลดลง
ล่าสุดเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง หลังรายงานตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งแย่กว่าที่คาดไว้ จึงทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในภาคพลังงานและสินค้าอุปโภคบริโภค
นอกจากนี้ การที่ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียพร้อมร่วมมือกับองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก ลดการผลิตน้ำมันลง ยิ่งมีส่วนผลักดันให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้น
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ อยู่ที่บาร์เรลละ 47.98 ดอลลาร์ ดีดขึ้นมาจากที่เกือบอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียว นับตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ 47.39 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมา 4.99 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันปรับลดลงมาเกือบ 100 ดอลลาร์ จากที่เคยพุ่งทำสถิติสูงสุด 147.27 ดอลลาร์ เมื่อเดือนกรกฎาคม เนื่องจากวิกฤตการเงินโลกส่งผลกระทบให้การใช้น้ำมันลดลง
ล่าสุดเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง หลังรายงานตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งแย่กว่าที่คาดไว้ จึงทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในภาคพลังงานและสินค้าอุปโภคบริโภค