นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนางจุรีภรณ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ นายกสมาคมแม่บ้านสาธารณสุข เดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยหนาว และมอบผ้าห่ม เสื้อกันหนาว ยาตำราหลวง เครื่องช่วยเดินสำหรับคนพิการ รวม 620 ชุด ที่หมู่บ้านขุนกลาง ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นมาก โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคอีสานในขณะนี้ อาจทำให้คนที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ เมื่ออยู่ในสภาพอากาศแห้งและเย็นจัด จะทำให้ป่วยเป็นโรคปอดบวมได้ง่าย ซึ่งโรคดังกล่าวเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่มีความรุนแรง อาจเกิดจากติดเชื้อโดยตรงหรือเป็นโรคแทรกซ้อนของไข้หวัด ติดต่อกันได้ทางไอ จาม โดยเชื้อจะอยู่ในเสมหะ น้ำลาย หรือติดต่อกันโดยใช้ภาชนะ สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย โรคนี้เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะเด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวน้อย เด็กขาดสารอาหาร เด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา พบว่าแต่ละปีจะมีผู้ป่วยโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบกว่าแสนราย เสียชีวิตนับพันราย ในปี 2550 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยโรคปอดบวม 142,250 ราย เสียชีวิต 1,043 ราย เฉพาะในช่วงฤดูหนาว 4 เดือน ตั้งแต่พฤศจิกายน 2550 –กุมภาพันธ์ 2551 พบป่วย 43,152 ราย เสียชีวิต 279 ราย ภาคอีสานสูงสุดป่วย 14,683 ราย เสียชีวิต 35 ราย รองลงมาภาคกลางป่วย 11,961 ราย เสียชีวิต 111 ราย ภาคเหนือป่วย 9,712 ราย เสียชีวิต 108 ราย ภาคใต้ป่วย 6797 ราย เสียชีวิต 25 ราย โดยจำนวนผู้ป่วยจะสูงสุดในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่หนาวเย็นที่สุด
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อไปว่า อาการผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจะมีไข้สูง ไอมาก เจ็บหน้าอก หายใจหอบ มีเสมหะมาก มักจะเกิดตามหลังโรคไข้หวัด 2-3 วัน ในเด็กจะตัวร้อนจัด ถ้าเป็นมาก จะหายใจแรงจนซี่โครงบุ๋ม ดังนั้นหากเด็กมีอาการลักษณะนี้ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที หากรักษาช้า หรือได้รับยาไม่ถูกต้อง อาจมีโรคแทรกได้อีก
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นมาก โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคอีสานในขณะนี้ อาจทำให้คนที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ เมื่ออยู่ในสภาพอากาศแห้งและเย็นจัด จะทำให้ป่วยเป็นโรคปอดบวมได้ง่าย ซึ่งโรคดังกล่าวเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่มีความรุนแรง อาจเกิดจากติดเชื้อโดยตรงหรือเป็นโรคแทรกซ้อนของไข้หวัด ติดต่อกันได้ทางไอ จาม โดยเชื้อจะอยู่ในเสมหะ น้ำลาย หรือติดต่อกันโดยใช้ภาชนะ สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย โรคนี้เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะเด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวน้อย เด็กขาดสารอาหาร เด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา พบว่าแต่ละปีจะมีผู้ป่วยโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบกว่าแสนราย เสียชีวิตนับพันราย ในปี 2550 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยโรคปอดบวม 142,250 ราย เสียชีวิต 1,043 ราย เฉพาะในช่วงฤดูหนาว 4 เดือน ตั้งแต่พฤศจิกายน 2550 –กุมภาพันธ์ 2551 พบป่วย 43,152 ราย เสียชีวิต 279 ราย ภาคอีสานสูงสุดป่วย 14,683 ราย เสียชีวิต 35 ราย รองลงมาภาคกลางป่วย 11,961 ราย เสียชีวิต 111 ราย ภาคเหนือป่วย 9,712 ราย เสียชีวิต 108 ราย ภาคใต้ป่วย 6797 ราย เสียชีวิต 25 ราย โดยจำนวนผู้ป่วยจะสูงสุดในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่หนาวเย็นที่สุด
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อไปว่า อาการผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจะมีไข้สูง ไอมาก เจ็บหน้าอก หายใจหอบ มีเสมหะมาก มักจะเกิดตามหลังโรคไข้หวัด 2-3 วัน ในเด็กจะตัวร้อนจัด ถ้าเป็นมาก จะหายใจแรงจนซี่โครงบุ๋ม ดังนั้นหากเด็กมีอาการลักษณะนี้ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที หากรักษาช้า หรือได้รับยาไม่ถูกต้อง อาจมีโรคแทรกได้อีก