พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุม แถลงผลการประชุมในวันนี้ ซึ่งมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า ได้จัดทำแผนเผชิญเหตุเพื่อรับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่อต้านและกลุ่มสนับสนุน ในวันเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ไว้แล้ว ขณะที่ตำรวจสันติบาลกำลังเกาะติดความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดความไม่เรียบร้อยในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่พบความเคลื่อนไหวใด ๆ
อย่างไรก็ตาม หากเกิดความวุ่นวายใด ๆ ขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมสนับสนุนกำลังจากส่วนกลางไปช่วยเหลือกองบัญชาการตำรวจนครบาลทันที เพื่อป้องกันเหตุการณ์บานปลาย หลังตำรวจมีบทเรียนและได้รับเสียงติติงจากประชาชนค่อนข้างมาก จากการที่ปล่อยให้กลุ่มผู้ชุมุนมพันธมิตรฯ บุกยึดสถานที่ราชการและสนามบิน จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ
รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกำชับในที่ประชุมให้ตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1 ดำเนินคดีกับแกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ กรณีการบุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ด้วยความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ พร้อมสั่งตำรวจภูธรทั่วประเทศให้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ ที่มีการรวมตัวกันในหลายพื้นที่อย่างใกล้ชิด แล้วรายงานให้ตำรวจสันติบาลรับทราบ เพื่อให้ตำรวจสันติบาลสืบหาความเชื่อมโยงของแต่ละกลุ่ม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรวมตัวเป็นม็อบขนาดใหญ่ขึ้นได้อีก
อย่างไรก็ตาม หากเกิดความวุ่นวายใด ๆ ขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมสนับสนุนกำลังจากส่วนกลางไปช่วยเหลือกองบัญชาการตำรวจนครบาลทันที เพื่อป้องกันเหตุการณ์บานปลาย หลังตำรวจมีบทเรียนและได้รับเสียงติติงจากประชาชนค่อนข้างมาก จากการที่ปล่อยให้กลุ่มผู้ชุมุนมพันธมิตรฯ บุกยึดสถานที่ราชการและสนามบิน จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ
รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกำชับในที่ประชุมให้ตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1 ดำเนินคดีกับแกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ กรณีการบุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ด้วยความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ พร้อมสั่งตำรวจภูธรทั่วประเทศให้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ ที่มีการรวมตัวกันในหลายพื้นที่อย่างใกล้ชิด แล้วรายงานให้ตำรวจสันติบาลรับทราบ เพื่อให้ตำรวจสันติบาลสืบหาความเชื่อมโยงของแต่ละกลุ่ม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรวมตัวเป็นม็อบขนาดใหญ่ขึ้นได้อีก