กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ รายงานว่า นายจ้างในสหรัฐฯ ได้ลดตำแหน่งงานลงถึง 533,000 ตำแหน่ง เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ถือเป็นการลดตำแหน่งงานรายเดือนมากที่สุดในรอบ 34 ปี
ส่วนตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 6.7 ถือว่าสูงที่สุดในรอบ 15 ปี ทั้งที่ตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ที่ร้อยละ 6.5 เมื่อเดือนตุลาคม ตัวเลขการว่างงาน และตำแหน่งงานในสหรัฐฯ ที่หดหายไป ก่อให้เกิดความวิตกว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอยู่ในช่วงขาลงอย่างรุนแรงและยาวนานกว่าที่คิดไว้
ด้านประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ ก็ออกมายอมรับว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากสหรัฐฯ ประสบปัญหาในธุรกิจบ้าน สินเชื่อ และตลาดเงินอย่างรุนแรง
ส่วนว่าที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ก็ย้ำว่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ ไม่สามารถแก้ไขได้โดยเร็ว อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะแก้ไขได้ และเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มดำดิ่งลงอีก ก่อนจะกระเตื้องขึ้นมาในท้ายที่สุด
ส่วนตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 6.7 ถือว่าสูงที่สุดในรอบ 15 ปี ทั้งที่ตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ที่ร้อยละ 6.5 เมื่อเดือนตุลาคม ตัวเลขการว่างงาน และตำแหน่งงานในสหรัฐฯ ที่หดหายไป ก่อให้เกิดความวิตกว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอยู่ในช่วงขาลงอย่างรุนแรงและยาวนานกว่าที่คิดไว้
ด้านประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ ก็ออกมายอมรับว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากสหรัฐฯ ประสบปัญหาในธุรกิจบ้าน สินเชื่อ และตลาดเงินอย่างรุนแรง
ส่วนว่าที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ก็ย้ำว่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ ไม่สามารถแก้ไขได้โดยเร็ว อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะแก้ไขได้ และเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มดำดิ่งลงอีก ก่อนจะกระเตื้องขึ้นมาในท้ายที่สุด