นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานถึงการจัดทำกรอบนโยบายการเงิน สำหรับปี 2552 ซึ่งจะมีการปรับใหม่ เพื่อให้ยืดหยุ่นจากเดิม สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยและปัจจัยลบภายในประเทศ
สำหรับนโยบายการเงินในปีหน้า จะอิงกรอบการดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ระหว่าง 0.5-3 % จากเดิม 0-3.5 % ทำให้นโยบายการเงินผ่อนคลายลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความสำคัญกับการดูแลเงินเฟ้อมากไป ซึ่งหากกรอบดูแลเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่นขึ้น รัฐบาลจะสามารถใช้นโยบายการคลังผลักดันให้เศรษฐกิจในปีหน้า ขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งน่าจะบรรเทาปัญหาการเลิกจ้างแรงงาน
โดยวันพรุ่งนี้ (3 ธ.ค.) คณะกรรมการนโยบายการเงินจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งคาดว่า จะมีการปรับลดลงประมาณ 0.25-0.5 % จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.75% ต่อปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับนโยบายการเงินในปีหน้า จะอิงกรอบการดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ระหว่าง 0.5-3 % จากเดิม 0-3.5 % ทำให้นโยบายการเงินผ่อนคลายลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความสำคัญกับการดูแลเงินเฟ้อมากไป ซึ่งหากกรอบดูแลเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่นขึ้น รัฐบาลจะสามารถใช้นโยบายการคลังผลักดันให้เศรษฐกิจในปีหน้า ขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งน่าจะบรรเทาปัญหาการเลิกจ้างแรงงาน
โดยวันพรุ่งนี้ (3 ธ.ค.) คณะกรรมการนโยบายการเงินจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งคาดว่า จะมีการปรับลดลงประมาณ 0.25-0.5 % จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.75% ต่อปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
