นายวีรพล จิระประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับผู้ค้าน้ำมัน ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัทเชฟรอน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด ได้ขอความร่วมมือในการปรับลดค่าการตลาดน้ำมันลงให้สะท้อนกับต้นทุนที่แท้จริง เพราะขณะนี้ค่าการตลาดเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 2 - 3 บาทต่อลิตร
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าน้ำมัน ระบุว่า สามารถปรับลดราคาน้ำมันลงให้ทันต่อต้นทุนที่แท้จริงได้มากที่สุด 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ในอัตราลิตรละ 60 - 80 สตางค์ ไม่สามารถปรับลดราคาน้ำมันลงตามต้นทุนที่แท้จริงได้ทันที เพราะผู้ค้าน้ำมันรายย่อยมีการเก็บสต๊อกน้ำมันไว้ล่วงหน้า 2 - 3 วัน หากมีการปรับขึ้นลงราคาน้ำมันแบบวันต่อวัน จะทำให้ผู้ค้ารายย่อยขาดทุนจนถึงขั้นปิดกิจการได้
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กล่าวด้วยว่า แม้ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่ยอดการใช้น้ำมันไม่ได้ปรับสูงขึ้นมากนัก โดยเดือนพฤศจิกายน 2551 มียอดการใช้น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 19.4 ล้านลิตร ดีเซลอยู่ที่ 45.5 ล้านลิตร และแก๊ซโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 10.7 ล้านลิตร
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าน้ำมัน ระบุว่า สามารถปรับลดราคาน้ำมันลงให้ทันต่อต้นทุนที่แท้จริงได้มากที่สุด 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ในอัตราลิตรละ 60 - 80 สตางค์ ไม่สามารถปรับลดราคาน้ำมันลงตามต้นทุนที่แท้จริงได้ทันที เพราะผู้ค้าน้ำมันรายย่อยมีการเก็บสต๊อกน้ำมันไว้ล่วงหน้า 2 - 3 วัน หากมีการปรับขึ้นลงราคาน้ำมันแบบวันต่อวัน จะทำให้ผู้ค้ารายย่อยขาดทุนจนถึงขั้นปิดกิจการได้
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กล่าวด้วยว่า แม้ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่ยอดการใช้น้ำมันไม่ได้ปรับสูงขึ้นมากนัก โดยเดือนพฤศจิกายน 2551 มียอดการใช้น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 19.4 ล้านลิตร ดีเซลอยู่ที่ 45.5 ล้านลิตร และแก๊ซโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 10.7 ล้านลิตร