นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีน้ำท่วมทั้งสิ้น 13 อำเภอ 126 ตำบล 655 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 10,000 ครอบครัว เบื้องต้นทางจังหวัดฯ ได้ให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้า คือ แจกถุงยังชีพ และจัดทำทางเดินเข้า-ออก ภายในชุมชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านชั่วคราว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้กำชับให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ให้บรรเทาความเดือดร้อนกับประชาชนด้วยการแจกจ่ายถุงยังชีพ เพราะเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงน้ำท่วม เนื่องจากประชาชนไม่สามารถหาซื้อสินค้าใว้ใช้บริโภคได้สะดวกนัก พร้อมขอให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดรถให้บริการน้ำดื่ม เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้านไปพลางก่อน
นายโอฬาร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เตรียมนำเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังน้ำลดเข้าหารือกับคณะรัฐมนตรี เพื่อหาทางฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่คงจะใช้แผนที่มีอยู่ก่อนหน้านี้มาปรับใช้ และคาดว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดขณะนี้ คือ การประกอบอาชีพ เนื่องจากพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยตนเองจะประสานกับรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงฯ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้กำชับให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ให้บรรเทาความเดือดร้อนกับประชาชนด้วยการแจกจ่ายถุงยังชีพ เพราะเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงน้ำท่วม เนื่องจากประชาชนไม่สามารถหาซื้อสินค้าใว้ใช้บริโภคได้สะดวกนัก พร้อมขอให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดรถให้บริการน้ำดื่ม เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้านไปพลางก่อน
นายโอฬาร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เตรียมนำเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังน้ำลดเข้าหารือกับคณะรัฐมนตรี เพื่อหาทางฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่คงจะใช้แผนที่มีอยู่ก่อนหน้านี้มาปรับใช้ และคาดว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดขณะนี้ คือ การประกอบอาชีพ เนื่องจากพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยตนเองจะประสานกับรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงฯ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน