หลังจากองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. ออกระเบียบให้ผู้ประกอบการเปิดประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐบาล จำนวน 3.1 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวเก่าตั้งแต่ปี 2547 จำนวน 2.1 ล้านตัน ข้าวใหม่ที่เพิ่งรับจำนำ จำนวน 1 ล้านตัน
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการประมูลที่กำหนดให้เพื่อส่งออกหรือจำหน่ายภายในประเทศ อาจทำให้ผู้ประกอบการประมูลข้าวเก่าเพื่อนำไปหมุนเวียนข้าวเข้าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล จึงสั่งให้องค์การคลังสินค้าเร่งแก้ไขระเบียบดังกล่าวให้ทันยื่นซองประกวดราคาในวันพุธนี้ (5 พ.ย.) โดยข้าวที่สามารถจำหน่ายในประเทศได้ต้องเป็นข้าวหอมมะลิเก่าเท่านั้น
ขณะที่ นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ระเบียบการประมูลข้าวครั้งนี้ ทำให้มีเพียงผู้ส่งออกรายใหญ่เท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐบาลได้ เนื่องจากระเบียบระบุว่า ผู้ร่วมประกวดราคาต้องยืนราคาที่เสนอมาเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งผู้ดำเนินการได้ต้องเป็นบริษัทที่มีเงินทุนมาก และการประมูลครั้งนี้ยังไม่มีการประกาศราคาต่อสาธารณชนด้วย ซึ่งผิดปกติของการประมูลทั่วไป
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการประมูลที่กำหนดให้เพื่อส่งออกหรือจำหน่ายภายในประเทศ อาจทำให้ผู้ประกอบการประมูลข้าวเก่าเพื่อนำไปหมุนเวียนข้าวเข้าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล จึงสั่งให้องค์การคลังสินค้าเร่งแก้ไขระเบียบดังกล่าวให้ทันยื่นซองประกวดราคาในวันพุธนี้ (5 พ.ย.) โดยข้าวที่สามารถจำหน่ายในประเทศได้ต้องเป็นข้าวหอมมะลิเก่าเท่านั้น
ขณะที่ นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ระเบียบการประมูลข้าวครั้งนี้ ทำให้มีเพียงผู้ส่งออกรายใหญ่เท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐบาลได้ เนื่องจากระเบียบระบุว่า ผู้ร่วมประกวดราคาต้องยืนราคาที่เสนอมาเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งผู้ดำเนินการได้ต้องเป็นบริษัทที่มีเงินทุนมาก และการประมูลครั้งนี้ยังไม่มีการประกาศราคาต่อสาธารณชนด้วย ซึ่งผิดปกติของการประมูลทั่วไป
