พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวก่อนการประชุมกลาโหม โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน โดยกล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นกับพันธมิตรฯ ที่ผ่านมาว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และขออย่าให้นำเรื่องดังกล่าวไปเชื่อมโยงให้เกิดความแตกแยก ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโทรศัพท์สายตรงมายังเวทีความจริงวันนี้สัญจร ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ว่าส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกัน แม้จะมีฐานะเป็นเพื่อนกัน ซึ่งตนเองไม่ได้ให้คำแนะนำอะไร เพราะถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นผู้ใหญ่
ขณะที่ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงเรื่องระเบิดว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องเข้าตรวจสอบ ซึ่งตนเองไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้ เพราะเกรงว่าข้อมูลอาจไม่ตรงกับการทำงานของตำรวจ อย่างไรก็ตามทหารจะคอยติดตามดูแลความเรียบร้อย แต่หน้าที่หลักคงเป็นความรับผิดชอบของตำรวจ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้นิ่งเฉย ได้มีการสั่งการและดูแลการทำงานอย่างใกล้ชิด
ด้าน พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงการโทรศัพท์สายตรงของอดีตนายกรัฐมนตรีว่า รัฐบาลควรติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเชื่อว่าอาจมีแนวโน้มที่ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่าง 2 ฝ่าย โดยรัฐบาลต้องเตรียมแผนที่ต้องดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะในอดีตก็มีความรุนแรงเกิดขึ้นเป็นตัวอย่างให้เห็น และเชื่อว่านายกรัฐมนตรี จะมีแนวทางป้องกันปัญหาเพื่อให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นได้
ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมือง และขอตัวเข้าประชุมสภากลาโหม โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น
ขณะที่ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงเรื่องระเบิดว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องเข้าตรวจสอบ ซึ่งตนเองไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้ เพราะเกรงว่าข้อมูลอาจไม่ตรงกับการทำงานของตำรวจ อย่างไรก็ตามทหารจะคอยติดตามดูแลความเรียบร้อย แต่หน้าที่หลักคงเป็นความรับผิดชอบของตำรวจ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้นิ่งเฉย ได้มีการสั่งการและดูแลการทำงานอย่างใกล้ชิด
ด้าน พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงการโทรศัพท์สายตรงของอดีตนายกรัฐมนตรีว่า รัฐบาลควรติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเชื่อว่าอาจมีแนวโน้มที่ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่าง 2 ฝ่าย โดยรัฐบาลต้องเตรียมแผนที่ต้องดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะในอดีตก็มีความรุนแรงเกิดขึ้นเป็นตัวอย่างให้เห็น และเชื่อว่านายกรัฐมนตรี จะมีแนวทางป้องกันปัญหาเพื่อให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นได้
ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมือง และขอตัวเข้าประชุมสภากลาโหม โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น
