พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) เรียกร้องให้ประชาชนชาวไทยทุกคน ได้เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งขอให้คนไทยที่อยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ได้ช่วยกันปกป้อง ไม่นำหรือดึงสถาบันลงมาเกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งนี้ คนที่จะร่วมมือร่วมใจกันทำงาน สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับประเทศชาติ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที และเทิดทูน ถวายแด่พระองค์ท่าน ส่วนความขัดแย้งทางการเมือง ขอให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ลดทิฐิ ประนีประนอม ถ้อยทีถ้อยอาศัย เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ไม่รู้สึกกังวลใจว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ในวันที่ 1 พฤศจิกายน กรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช) จะมีการนัดชุมนุมใหญ่ รวมถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีการปราศรัยผ่านทางโทรศัพท์ อาจจะเป็นการพูดคุยแบบธรรมดา หรือเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนเสียสละเพื่อแผ่นดินก็เป็นได้
พล.อ.ทรงกิตติ ยังกล่าวว่า ปัญหาตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ขณะนี้ทุกอย่างกำลังดำเนินการไปในทางที่ดีขึ้นและจะกลับมาสู่การเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย โดยใช้กลไกของรัฐที่มีอยู่ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถยุติปัญหาข้อขัดแย้งใดๆ ระดับปัญหาท้องถิ่นได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าข้อขัดแย้งหรือการปะทะกันของทหาร 2 ฝ่ายจะไม่ขยายวงกว้างไปมากกว่านี้ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ผู้นำของกัมพูชา ยืนยันจะมีการเจรจาเพื่อยุติปัญหา ซึ่งน่าจะสะท้อนถึงภาพที่ต้องการลดความขัดแย้งเพื่อช่วยกันพัฒนาภูมิภาคครั้งนี้ไปด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีการตอบโต้ของทหารทั้ง 2 ฝ่ายนั้นยืนยันว่าฝ่ายไทยใช้อาวุธเพื่อปกป้องตนเองและดำเนินการตามกฎบัตรประชาชาติตามกฎหมายที่มีอยู่ เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในสมาชิกสหประชาชาติทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างทหารไทยและกัมพูชายังคงดีอยู่เหมือนเดิม
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ไม่รู้สึกกังวลใจว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ในวันที่ 1 พฤศจิกายน กรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช) จะมีการนัดชุมนุมใหญ่ รวมถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีการปราศรัยผ่านทางโทรศัพท์ อาจจะเป็นการพูดคุยแบบธรรมดา หรือเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนเสียสละเพื่อแผ่นดินก็เป็นได้
พล.อ.ทรงกิตติ ยังกล่าวว่า ปัญหาตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ขณะนี้ทุกอย่างกำลังดำเนินการไปในทางที่ดีขึ้นและจะกลับมาสู่การเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย โดยใช้กลไกของรัฐที่มีอยู่ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถยุติปัญหาข้อขัดแย้งใดๆ ระดับปัญหาท้องถิ่นได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าข้อขัดแย้งหรือการปะทะกันของทหาร 2 ฝ่ายจะไม่ขยายวงกว้างไปมากกว่านี้ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ผู้นำของกัมพูชา ยืนยันจะมีการเจรจาเพื่อยุติปัญหา ซึ่งน่าจะสะท้อนถึงภาพที่ต้องการลดความขัดแย้งเพื่อช่วยกันพัฒนาภูมิภาคครั้งนี้ไปด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีการตอบโต้ของทหารทั้ง 2 ฝ่ายนั้นยืนยันว่าฝ่ายไทยใช้อาวุธเพื่อปกป้องตนเองและดำเนินการตามกฎบัตรประชาชาติตามกฎหมายที่มีอยู่ เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในสมาชิกสหประชาชาติทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างทหารไทยและกัมพูชายังคงดีอยู่เหมือนเดิม
