"สมชาย"โชว์วิสัยทัศน์เวทีอาเซม ร้องทุกฝ่ายร่วมวางรากฐานระยะยาว

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) เกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหาร ว่า ขณะนี้วิกฤตการณ์อาหารและพลังงานได้สร้างผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อประชากรโลก โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา โดยวิกฤตครั้งนี้เป็นการเตือนที่ไม่ควรประมาท และทุกฝ่ายต้องร่วมกันวางรากฐานระยะยาวด้านความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน ซึ่งไทยในฐานะผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ของโลก พร้อมแสดงความรับผิดชอบ และเชื่อว่าวิกฤตการณ์ในครั้งนี้จะเป็นโอกาสพัฒนาเทคนิคทางการผลิตและพืชพลังงาน เพื่อเพิ่มผลผลิตให้ได้มาตรฐาน การบริหารจัดการน้ำเพื่อการชลประทาน และสร้างโอกาสการค้าการลงทุนอย่างต่อเนื่อง สำหรับสินค้าเกษตรและอาหาร การแปรรูปสินค้าเกษตร และการสร้างตราสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าให้มากขึ้น
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ไทยพร้อมร่วมมือกับสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อทำให้ความพยายามมีผลมากขึ้นในกรอบของอาเซม โดยไทยเห็นว่าควรให้ความสำคัญกับผลกระทบของภาวะโลกร้อนทางด้านการประหยัดพลังงาน โดยใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น และการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน
ขณะที่เอเชียและยุโรปควรอำนวยความสะดวกทางการค้า และความปลอดภัยของอาหาร รวมทั้งการประเมินมาตรฐานและการรองรับ รวมทั้งการผลักดันให้การเจรจาทางการค้ารอบโดฮาเป็นผลสำเร็จ เพื่อลด เลิก มาตรการอุดหนุน และมาตรการอื่นที่เป็นการบิดเบือนกลไกของตลาด ทำให้ประเทศกำลังพัฒนายากจนลง โดยไทยเห็นว่าอียูมีความพร้อมที่จะทำให้เป็นรูปธรรมได้ แต่ก็ไม่ง่ายนัก เพราะความร่วมมือระหว่างประเทศจำเป็นต้องยอมรับความแตกต่างในเรื่องความต้องการ ลำดับความสำคัญในแต่ละประเทศ และไทยพร้อมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์กับหุ้นส่วนองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อต้องการเห็นวิสัยทัศน์ในการประชุมครั้งนี้เป็นความจริง