โมฮัมเหม็ด อัลฟายเอ็ด เจ้าของห้างแฮร์รอดส์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ ปฏิเสธข้อกล่าวหารุกรานทางเพศเด็กหญิงอายุ 15 ปีคนหนึ่ง ขณะถูกตำรวจสอบปากคำเมื่อวันพุธ (22)
มหาเศรษฐีชาวอียิปต์เดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ทางตะวันตกของกรุงลอนดอนเมื่อวันพุธ (22) เพื่อตอบข้อซักถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เด็กหญิงคนหนึ่งถูกรุกรานทางเพศเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ด้านสำนักงานตำรวจกรุงลอนดอน ระบุในแถลงการณ์ว่า ชายคนหนึ่งได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจหลังถูกกล่าวหาว่ารุกรานทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 16 ปีในสำนักงานแห่งหนึ่งใจกลางกรุงลอนดอนเมื่อเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตามตำรวจไม่ได้ระบุว่าชายที่ถูกสอบปากคำคนดังกล่าวคือใคร
ขณะที่แคทรีน วิทตี โฆษกของอัลฟายเอ็ด กล่าวว่า อัลฟายเอ็ดได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และมั่นใจว่าจะพ้นมลทินในที่สุด
“โมฮัมเหม็ด อัลฟายเอ็ดสมัครใจเดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจในวันนี้ (22) และได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่มีการรายงานตามสื่อต่างๆ ซึ่งอ้างแหล่งข่าวที่เป็นตำรวจอย่างแพร่หลาย การเดินทางเข้าให้ปากคำครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการถูกบังคับ และการสอบปากคำใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง” โฆษกของอัลฟายเอ็ดกล่าว
อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอัลฟายเอ็ด ซึ่งเป็นเจ้าของสโมรสรฟุตบอลฟูลแลม ถูกสอบปากคำในฐานะพยานหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจนถึงขณะนี้คดีดังกล่าวตำรวจยังไม่มีการจับกุมผู้กระทำผิดแต่อย่างใด
หนังสือพิมพ์เดอะ เมล์ฉบับวันอาทิตย์ (19) รายงานว่า เด็กหญิงอายุ 15 ปีคนหนึ่งกล่าวหาผู้บริหารระดับสูงของห้างแฮร์รอดส์ที่ไม่เปิดเผยชื่อคนหนึ่งว่าลูบไล้ร่างกายและจูบเธอ หลังเคยพบกันก่อนหน้านี้ขณะที่เธอกำลังเดินซื้อของอยู่ในห้างดังกล่าวกับผู้เป็นแม่
ทั้งนี้โดดี ลูกชายของอัลฟายเอ็ด เสียชีวิตพร้อมกับเจ้าหญิงไดอานาในอุบัติเหตุทางรถยนต์ในกรุงปารีสเมื่อปี 1997 ขณะที่อัลฟายเอ็ดใช้เวลากว่า 10 ปีในความพยายามเปิดโปงแผนลอบสังหารเจ้าหญิงไดอานา ซึ่งเขาระบุว่าเป็นแผนของราชวงศ์อังกฤษที่ต้องการขัดขวางไม่ให้เจ้าหญิงแต่งงานกับชาวมุสลิม
อย่างไรก็ตามหลังจากการสอบสวนการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานาปิดฉากลงเมื่อเดือนเมษายน อัลฟายเอ็ดได้ออกมาระบุว่าเขายอมรับการตัดสินของศาลซึ่งได้สรุปว่าการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงเป็นการฆ่าที่ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งเกิดจากความผิดของคนขับรถที่อยู่ในอาการเมาและช่างภาพที่ไล่ตามเจ้าหญิง
มหาเศรษฐีชาวอียิปต์เดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ทางตะวันตกของกรุงลอนดอนเมื่อวันพุธ (22) เพื่อตอบข้อซักถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เด็กหญิงคนหนึ่งถูกรุกรานทางเพศเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ด้านสำนักงานตำรวจกรุงลอนดอน ระบุในแถลงการณ์ว่า ชายคนหนึ่งได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจหลังถูกกล่าวหาว่ารุกรานทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 16 ปีในสำนักงานแห่งหนึ่งใจกลางกรุงลอนดอนเมื่อเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตามตำรวจไม่ได้ระบุว่าชายที่ถูกสอบปากคำคนดังกล่าวคือใคร
ขณะที่แคทรีน วิทตี โฆษกของอัลฟายเอ็ด กล่าวว่า อัลฟายเอ็ดได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และมั่นใจว่าจะพ้นมลทินในที่สุด
“โมฮัมเหม็ด อัลฟายเอ็ดสมัครใจเดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจในวันนี้ (22) และได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่มีการรายงานตามสื่อต่างๆ ซึ่งอ้างแหล่งข่าวที่เป็นตำรวจอย่างแพร่หลาย การเดินทางเข้าให้ปากคำครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการถูกบังคับ และการสอบปากคำใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง” โฆษกของอัลฟายเอ็ดกล่าว
อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอัลฟายเอ็ด ซึ่งเป็นเจ้าของสโมรสรฟุตบอลฟูลแลม ถูกสอบปากคำในฐานะพยานหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจนถึงขณะนี้คดีดังกล่าวตำรวจยังไม่มีการจับกุมผู้กระทำผิดแต่อย่างใด
หนังสือพิมพ์เดอะ เมล์ฉบับวันอาทิตย์ (19) รายงานว่า เด็กหญิงอายุ 15 ปีคนหนึ่งกล่าวหาผู้บริหารระดับสูงของห้างแฮร์รอดส์ที่ไม่เปิดเผยชื่อคนหนึ่งว่าลูบไล้ร่างกายและจูบเธอ หลังเคยพบกันก่อนหน้านี้ขณะที่เธอกำลังเดินซื้อของอยู่ในห้างดังกล่าวกับผู้เป็นแม่
ทั้งนี้โดดี ลูกชายของอัลฟายเอ็ด เสียชีวิตพร้อมกับเจ้าหญิงไดอานาในอุบัติเหตุทางรถยนต์ในกรุงปารีสเมื่อปี 1997 ขณะที่อัลฟายเอ็ดใช้เวลากว่า 10 ปีในความพยายามเปิดโปงแผนลอบสังหารเจ้าหญิงไดอานา ซึ่งเขาระบุว่าเป็นแผนของราชวงศ์อังกฤษที่ต้องการขัดขวางไม่ให้เจ้าหญิงแต่งงานกับชาวมุสลิม
อย่างไรก็ตามหลังจากการสอบสวนการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานาปิดฉากลงเมื่อเดือนเมษายน อัลฟายเอ็ดได้ออกมาระบุว่าเขายอมรับการตัดสินของศาลซึ่งได้สรุปว่าการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงเป็นการฆ่าที่ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งเกิดจากความผิดของคนขับรถที่อยู่ในอาการเมาและช่างภาพที่ไล่ตามเจ้าหญิง