นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพกดดันรัฐบาล ว่า ถ้อยคำหลายส่วนที่ผู้บัญชาการทหารบกพูด ไม่สามารถตีความได้ เช่นคำว่า "หากมีการนองเลือดจริง คงเป็นการหยุดใช้อำนาจ แต่ไม่ใช่การทำรัฐประหาร" และคำว่า "ทุกเหล่าทัพเป็นหนึ่งเดียวกัน" คำพูดดังกล่าว ไม่สามารถทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และความเห็นที่ไม่ตรงกัน แต่เป็นการส่งเสริมให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น
ส่วนกระแสข่าวนายกรัฐมนตรีพบกับผู้บัญชาการทหารบก โดยขอเวลาทำงาน 2 เดือนและจะตัดสินใจทางการเมืองนั้น นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดว่ามีการตกลงกันอย่างไร แต่เห็นว่าหากนายกรัฐมนตรีจะลาออก ต้องไม่ลาออกเพราะถูกกดดัน หรือไม่ใช่มาจากการกลัวกองทัพ เพราะหากนายกรัฐมนตรีลาออก คนจะมองว่าประเทศไทยมีการใช้อำนาจเผด็จการและมีความล้าหลัง เหมือนกับประเทศพม่า หรือแอฟริกา ซึ่งนานาชาติจะไม่ยอมรับ
นอกจากนี้ การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จะเป็นทางออกหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การมี ส.ส.ร. ถือเป็นทางออก แต่เมื่อถึงเวลานั้น นายสมชายคงไม่อยู่แล้ว และอาจไม่ใช่รัฐบาลนี้ เพราะถึงตอนนั้นคดียุบพรรคคงมีผลแล้ว
ส่วนกระแสข่าวนายกรัฐมนตรีพบกับผู้บัญชาการทหารบก โดยขอเวลาทำงาน 2 เดือนและจะตัดสินใจทางการเมืองนั้น นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดว่ามีการตกลงกันอย่างไร แต่เห็นว่าหากนายกรัฐมนตรีจะลาออก ต้องไม่ลาออกเพราะถูกกดดัน หรือไม่ใช่มาจากการกลัวกองทัพ เพราะหากนายกรัฐมนตรีลาออก คนจะมองว่าประเทศไทยมีการใช้อำนาจเผด็จการและมีความล้าหลัง เหมือนกับประเทศพม่า หรือแอฟริกา ซึ่งนานาชาติจะไม่ยอมรับ
นอกจากนี้ การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จะเป็นทางออกหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การมี ส.ส.ร. ถือเป็นทางออก แต่เมื่อถึงเวลานั้น นายสมชายคงไม่อยู่แล้ว และอาจไม่ใช่รัฐบาลนี้ เพราะถึงตอนนั้นคดียุบพรรคคงมีผลแล้ว