นางสาวลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการที่ได้เดินทางไปศึกษาดูงานการจัดสื่อเพื่อเด็ก เยาวชน และครอบครัวที่กรุงโซล ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี พบว่าเกาหลีให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมดูแลเรื่องเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะปัญหาเด็กติดเกม ที่มีหน่วยงานเฉพาะแก้ไขปัญหาเด็กติดอินเตอร์เน็ต และเกมโดยตรง นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการลงนามความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพื่อดูแลเรื่องเกมโดยเฉพาะ ทำให้ไม่มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าร้านเกม และจากศึกษางานในครั้งนี้ก็จะนำมาปรับใช้สำหรับการแก้ปัญหาของไทย โดยจะเริ่มตั้งแต่การอบรมอาสาสมัครให้ความรู้ความเข้าใจด้านเทคโนโลยีกับผู้ปกครอง ครู อาจารย์ ให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการเล่นเกมของเด็กแต่ละวัย พร้อมทั้งเปิดเวทีให้เด็กได้แสดงออกด้านอื่น
อย่างไรก็ตาม จากผลการศึกษาปัญหาเด็กติดเกมในขณะนี้พบว่า ประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดข้อกฎหมายและระเบียบต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม และไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบและแก้ปัญหาโดยตรง ดังนั้นคณะทำงานจึงเตรียมเสนอให้รัฐบาล เร่งดำเนินการแก้ปัญหาเด็กติดเกมอย่างเป็นระบบ โดยจะนำกรณีศึกษาจากประเทศสาธารณรัฐเกาหลีที่ได้กำหนดมาตรการทางกฎหมายบังคับใช้อย่างจริงจัง ที่ควรนำมาปรับใช้ในประเทศไทยด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากผลการศึกษาปัญหาเด็กติดเกมในขณะนี้พบว่า ประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดข้อกฎหมายและระเบียบต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม และไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบและแก้ปัญหาโดยตรง ดังนั้นคณะทำงานจึงเตรียมเสนอให้รัฐบาล เร่งดำเนินการแก้ปัญหาเด็กติดเกมอย่างเป็นระบบ โดยจะนำกรณีศึกษาจากประเทศสาธารณรัฐเกาหลีที่ได้กำหนดมาตรการทางกฎหมายบังคับใช้อย่างจริงจัง ที่ควรนำมาปรับใช้ในประเทศไทยด้วยเช่นกัน
