ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ผู้แทนพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ นำกระเช้าดอกไม้ประทานแก่นายทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่ทหารไทย-กัมพูชาปะทะกันได้รับบาดเจ็บ 7 นาย โดยทหารจำนวน 6 นายอาการดีขึ้นทุกนาย มีเพียงอีก 1 นายที่แพทย์ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โดยแพทย์ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด
คณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค หรือ อาร์บีซี นัดประชุมเจรจาเหตุการณ์ทหารไทยและกัมพูชาปะทะกัน บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ โดยจะจัดขึ้น ณ บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และได้มีการเปลี่ยนสถานที่เจรจา เป็นสำนักงานพื้นที่ชายแดนไทย อ.กาบเชิง ล่าสุดยกเลิกการเจรจาแล้ว
ขณะที่ทหารไทยเฝ้าระวังหลังจากทหารกัมพูชาอยู่ตามแนวชายแดนด้าน อ.พนมดงรัก โดยตลอดคืนที่ผ่านมา ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น ส่วนโรงพยาบาลกาบเชิง แพทย์และพยาบาลยังให้การรักษาผู้ป่วยชาวกัมพูชาตามปกติ ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม และจรรยาบรรณ จึงไม่มีการแยกผู้ป่วยว่าเป็นคนไทยหรือกัมพูชา แม้จะต้องรับค่ารักษาพยาบาลที่ไม่เต็มราคาก็ตาม
ส่วนสถานการณ์ชายแดนด้าน จ.บุรีรัมย์ ยังคงเป็นปกติ ไม่มีการสั่งเพิ่มกำลังทหารแต่มีการเฝ้าระวัง โดยวช้กำลังทหารลาดตระเวนในพื้นที่ อ.บ้านกรวด และละหานทราย ที่อยู่ติดชายแดน โดยเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนมากขึ้น
ด้านเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ แนะนำให้คนไทยว่า หากไม่มีธุระ หรือภารกิจใดๆ ขอให้เดินทางกลับประเทศไทยก่อนเพื่อความปลอดภัย
คณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค หรือ อาร์บีซี นัดประชุมเจรจาเหตุการณ์ทหารไทยและกัมพูชาปะทะกัน บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ โดยจะจัดขึ้น ณ บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และได้มีการเปลี่ยนสถานที่เจรจา เป็นสำนักงานพื้นที่ชายแดนไทย อ.กาบเชิง ล่าสุดยกเลิกการเจรจาแล้ว
ขณะที่ทหารไทยเฝ้าระวังหลังจากทหารกัมพูชาอยู่ตามแนวชายแดนด้าน อ.พนมดงรัก โดยตลอดคืนที่ผ่านมา ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น ส่วนโรงพยาบาลกาบเชิง แพทย์และพยาบาลยังให้การรักษาผู้ป่วยชาวกัมพูชาตามปกติ ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม และจรรยาบรรณ จึงไม่มีการแยกผู้ป่วยว่าเป็นคนไทยหรือกัมพูชา แม้จะต้องรับค่ารักษาพยาบาลที่ไม่เต็มราคาก็ตาม
ส่วนสถานการณ์ชายแดนด้าน จ.บุรีรัมย์ ยังคงเป็นปกติ ไม่มีการสั่งเพิ่มกำลังทหารแต่มีการเฝ้าระวัง โดยวช้กำลังทหารลาดตระเวนในพื้นที่ อ.บ้านกรวด และละหานทราย ที่อยู่ติดชายแดน โดยเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนมากขึ้น
ด้านเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ แนะนำให้คนไทยว่า หากไม่มีธุระ หรือภารกิจใดๆ ขอให้เดินทางกลับประเทศไทยก่อนเพื่อความปลอดภัย