นายจอห์น แมคเคน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ที่ขณะนี้มีคะแนนตามหลังนายบารัก โอบามา คู่แข่งจากเดโมแครต แถลงนโยบายเศรษฐกิจ หลังจากนายโอบามา เปิดเผยไปแล้วเมื่อวันจันทร์ โดยนายแมคเคน ระบุว่า แผนการของเขาจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบที่สุดจากวิกฤตเศรษฐกิจ นั่นคือกลุ่มคนตกงาน เจ้าของบ้าน และผู้ที่บ้านกำลังจะถูกยึด รวมทั้งคนชรา ซึ่งหากได้เป็นประธานาธิบดี ตนจะรับประกันเงินฝากเต็มวงเงินตลอดช่วง 6 เดือนแรกของการดำรงตำแหน่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการมูลค่า 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นายแมคเคน ระบุด้วยว่า จะลดภาษีดอกเบี้ยให้กับคนที่ว่างงาน และลดภาษีเงินได้ลงครึ่งหนึ่งไปจนถึงปี 2009 พร้อมกับโจมตีนายโอบามา ว่าเปลี่ยนจุดยืนเรื่องภาษี ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายโอบามา เคยลงคะแนนให้เพิ่มภาษีมาตลอด แต่ในแผนกู้เศรษฐกิจที่เสนอไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น นายโอบามา ระบุว่าจะมีแผนลดภาษี
ขณะที่ทีมหาเสียงของนายโอบามา ประเมินว่านายแมคเคน น่าจะโจมตีประเด็นแผนการเศรษฐกิจ ในการโต้วาทีครั้งสุดท้ายที่จะมีขึ้นในวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อพยายามจะพลิกขึ้นมาให้มีคะแนนนำอีกครั้ง หลังจากที่ผลสำรวจความเห็นในช่วงที่ผ่านมาชี้ว่า นายโอบามา ได้รับความนิยมค่อนข้างทิ้งห่างจากนายแมคเคน
ผลสำรวจความเห็นล่าสุดที่ทำโดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ที่เผยแพร่ในวันนี้ ระบุว่า นายโอบามา นั้นมีคะแนนนิยมนำนายแมคเคน ถึง 14 จุด ที่ร้อยละ 53 ต่อ 39
นอกจากนี้ นายแมคเคน ระบุด้วยว่า จะลดภาษีดอกเบี้ยให้กับคนที่ว่างงาน และลดภาษีเงินได้ลงครึ่งหนึ่งไปจนถึงปี 2009 พร้อมกับโจมตีนายโอบามา ว่าเปลี่ยนจุดยืนเรื่องภาษี ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายโอบามา เคยลงคะแนนให้เพิ่มภาษีมาตลอด แต่ในแผนกู้เศรษฐกิจที่เสนอไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น นายโอบามา ระบุว่าจะมีแผนลดภาษี
ขณะที่ทีมหาเสียงของนายโอบามา ประเมินว่านายแมคเคน น่าจะโจมตีประเด็นแผนการเศรษฐกิจ ในการโต้วาทีครั้งสุดท้ายที่จะมีขึ้นในวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อพยายามจะพลิกขึ้นมาให้มีคะแนนนำอีกครั้ง หลังจากที่ผลสำรวจความเห็นในช่วงที่ผ่านมาชี้ว่า นายโอบามา ได้รับความนิยมค่อนข้างทิ้งห่างจากนายแมคเคน
ผลสำรวจความเห็นล่าสุดที่ทำโดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ที่เผยแพร่ในวันนี้ ระบุว่า นายโอบามา นั้นมีคะแนนนิยมนำนายแมคเคน ถึง 14 จุด ที่ร้อยละ 53 ต่อ 39