นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการท่าเรือแห่งประเทศ (กทท.) โดยเห็นว่าหน่วยงานดังกล่าวเปรียบเสมือนบริษัทที่ต้องมุ่งแสวงหากำไรเพื่อนำรายได้เข้าสู่หน่วยงาน
นายวราวุธ กล่าวว่า ในเบื้องต้น กทท. จะต้องพัฒนาตนเองให้สามารถแข่งขันกับท่าเรือประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ฮ่องกง หรือสิงคโปร์ โดยต้องการให้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อให้บุคลากรสามารถนำข้อมูลที่มีอยู่ไปสู่การปฏิบัติได้ ประกอบด้วย 3 ปัจจัย คือ ปัจจัยภายในองค์กร ปัจจัยด้านการเงิน และปัจจัยภายนอกองค์กร ซึ่งหาก กทท.มีข้อมูลทั้ง 3 อย่าง ก็จะทำให้สามารถกำหนดทิศทางการดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังมีแผนจะหารือกับสหภาพ กทท. เนื่องจากสมาชิกสหภาพฯ กทท.เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพที่เป็นฝ่ายปฏิบัติงาน และที่ผ่านมาก็มีการหยุดงาน ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของหน่วยงานเอง ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมือง ล่าสุดได้รับรายงานว่าทางสหภาพ กทท.ไม่มีการนัดหยุดงานเหมือนครั้งที่ผ่านมา ซึ่งก็ส่งผลดีต่อ กทท.
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หากสามารถจัดรายชื่อคณะกรรมการ กทท.ทันในสัปดาห์หน้า ก็จะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่หากไม่ทันก็จะเลื่อนไปเสนอในครั้งต่อไป ซึ่งจะทำให้เร็วที่สุด เพราะ กทท.เป็นหน่วยงานที่ต้องแสวงหารายได้กำไร จึงต้องมีคณะกรรมการเข้ามาบริหารจัดการ โดยตนจะทำหน้าที่ในการสั่งการด้านนโยบายผ่านคณะกรรมการ กทท.
นายวราวุธ กล่าวว่า ในเบื้องต้น กทท. จะต้องพัฒนาตนเองให้สามารถแข่งขันกับท่าเรือประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ฮ่องกง หรือสิงคโปร์ โดยต้องการให้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อให้บุคลากรสามารถนำข้อมูลที่มีอยู่ไปสู่การปฏิบัติได้ ประกอบด้วย 3 ปัจจัย คือ ปัจจัยภายในองค์กร ปัจจัยด้านการเงิน และปัจจัยภายนอกองค์กร ซึ่งหาก กทท.มีข้อมูลทั้ง 3 อย่าง ก็จะทำให้สามารถกำหนดทิศทางการดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังมีแผนจะหารือกับสหภาพ กทท. เนื่องจากสมาชิกสหภาพฯ กทท.เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพที่เป็นฝ่ายปฏิบัติงาน และที่ผ่านมาก็มีการหยุดงาน ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของหน่วยงานเอง ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมือง ล่าสุดได้รับรายงานว่าทางสหภาพ กทท.ไม่มีการนัดหยุดงานเหมือนครั้งที่ผ่านมา ซึ่งก็ส่งผลดีต่อ กทท.
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หากสามารถจัดรายชื่อคณะกรรมการ กทท.ทันในสัปดาห์หน้า ก็จะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่หากไม่ทันก็จะเลื่อนไปเสนอในครั้งต่อไป ซึ่งจะทำให้เร็วที่สุด เพราะ กทท.เป็นหน่วยงานที่ต้องแสวงหารายได้กำไร จึงต้องมีคณะกรรมการเข้ามาบริหารจัดการ โดยตนจะทำหน้าที่ในการสั่งการด้านนโยบายผ่านคณะกรรมการ กทท.
