ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงในช่วงท้ายของการซื้อขาย ฉุดดัชนีดาวโจนส์ร่วงกว่า 670 จุด ปิดต่ำกว่าเพดาน 9,000 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ส่วนราคาน้ำมันก็ดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 1 ปี ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ ช่วงแรกดัชนีกระจัดกระจายจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และแรงขายหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินและพลังงาน
ก่อนที่จะมีข่าวว่า สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (เอสแอนด์พี) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ ออกมาส่งสัญญาณพิจารณาลดอันดับความน่าเชื่อถือของเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และฟอร์ด สองค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ หลังประสบปัญหายอดขายในอเมริกาเหนือตกลงอย่างหนัก ฉุดให้นักลงทุนเทขายหุ้นยกกระดาน เนื่องจากเกรงว่าวิกฤติการเงินจะยิ่งลุกลามมากยิ่งขึ้น
ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก ปิดที่ 86.59 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 2.36 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่ำสุดในรอบ 1 ปี ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ปิดที่ 82.66 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 1.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดิ่งลง 678.91 จุด ไปปิดที่ระดับ 8,579.19 จุด เป็นการปิดต่ำกว่า 9,000 จุด เป็นครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2546 แนสแด็ก ปิดที่ระดับ 1,645.12 จุด ลดลง 95.21 จุด และเอสแอนด์พี ปิดที่ระดับ 909.92 จุด ลดลง 75.02 จุด
ก่อนที่จะมีข่าวว่า สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (เอสแอนด์พี) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ ออกมาส่งสัญญาณพิจารณาลดอันดับความน่าเชื่อถือของเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และฟอร์ด สองค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ หลังประสบปัญหายอดขายในอเมริกาเหนือตกลงอย่างหนัก ฉุดให้นักลงทุนเทขายหุ้นยกกระดาน เนื่องจากเกรงว่าวิกฤติการเงินจะยิ่งลุกลามมากยิ่งขึ้น
ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก ปิดที่ 86.59 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 2.36 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่ำสุดในรอบ 1 ปี ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ปิดที่ 82.66 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 1.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดิ่งลง 678.91 จุด ไปปิดที่ระดับ 8,579.19 จุด เป็นการปิดต่ำกว่า 9,000 จุด เป็นครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2546 แนสแด็ก ปิดที่ระดับ 1,645.12 จุด ลดลง 95.21 จุด และเอสแอนด์พี ปิดที่ระดับ 909.92 จุด ลดลง 75.02 จุด