ศาลอาญาอ่านคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภายหลังจากทีมทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลอาญา ที่มีการออกหมายจับ 9 แกนนำ ในข้อหาเป็นกบฏ การสะสมกำลัง อาวุธ เพื่อตระเตรียมการ สมคบกันเป็นกบฏ มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป เพื่อใช้กำลังประทุษร้าย กระทำการวิธีอื่นใดให้กับประชาชนละเมิดอำนาจกฎหมายแผ่นดิน รวมถึงเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกชุมนุมแต่ไม่เลิก ล่าสุด ศาลได้มีการวินิจฉัยว่าสำหรับข้อหากบฏนั้น ยังไม่มีเหตุอันควรที่จะออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ในความผิดดังกล่าว เพราะเป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่ค่อนข้างจะเลื่อนลอย
ส่วนข้อหาที่เจ้าพนักงานสั่งว่าผู้ใดมั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกตามที่พนักงานสอบสวนเป็นผู้ร้องให้ออกหมายจับนั้น ก็ไม่ปรากฏด้วยว่า ตามคำร้องขอออกหมายจับมีเจ้าพนักงานคนใดสั่งให้ผู้ต้องหาทั้ง 9 คน เลิกการกระทำความผิดดังกล่าว จึงไม่มีเหตุอันควรที่จะออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 216 ด้วยเช่นกัน
ทำให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกเลิกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ในข้อหาเป็นกบฏ รวมถึงการสะสมกำลังพลเพื่อตระเตรียมการเป็นกบฏ แต่ทั้งนี้ มีคำสั่งให้ออกหมายจับใหม่แก่แกนนำ 7 คน ในข้อหาตามมาตรา 215 คือ ผู้ใดมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอื่นใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และความผิดตามมาตรา 116 ผู้ใดกระทำความผิดให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใด ให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ซึ่งใน 2 ข้อหานี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ไม่จำเป็นต้องออกหมายจับ เนื่องจากขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครอยู่แล้ว
สำหรับความผิดตามมาตรา 116 ระวางโทษจำคุก 7 ปี ส่วนมาตรา 215 มีโทษจำคุก 6 เดือน ซึ่งต้องจับตาว่าทีมทนายความจะมีการหารือกันเพื่อนำแกนนำทั้ง 7 คน เข้ามอบตัวหรือไม่ หรือจะมีการยื่นขอประกันตัว พล.ต.จำลอง และนายไชยวัฒน์ ในวันนี้
ขณะที่พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำคำสั่งของศาลอุทธรณ์ไปยื่นรายงานต่อผู้บังคับบัญชา คือ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าพนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องขอฎีกาภายใน 30 วัน เพื่อยืนยันขอให้มีการออกหมายจับในข้อหากบฏตามเดิม
ส่วนข้อหาที่เจ้าพนักงานสั่งว่าผู้ใดมั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกตามที่พนักงานสอบสวนเป็นผู้ร้องให้ออกหมายจับนั้น ก็ไม่ปรากฏด้วยว่า ตามคำร้องขอออกหมายจับมีเจ้าพนักงานคนใดสั่งให้ผู้ต้องหาทั้ง 9 คน เลิกการกระทำความผิดดังกล่าว จึงไม่มีเหตุอันควรที่จะออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 216 ด้วยเช่นกัน
ทำให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกเลิกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ในข้อหาเป็นกบฏ รวมถึงการสะสมกำลังพลเพื่อตระเตรียมการเป็นกบฏ แต่ทั้งนี้ มีคำสั่งให้ออกหมายจับใหม่แก่แกนนำ 7 คน ในข้อหาตามมาตรา 215 คือ ผู้ใดมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอื่นใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และความผิดตามมาตรา 116 ผู้ใดกระทำความผิดให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใด ให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ซึ่งใน 2 ข้อหานี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ไม่จำเป็นต้องออกหมายจับ เนื่องจากขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครอยู่แล้ว
สำหรับความผิดตามมาตรา 116 ระวางโทษจำคุก 7 ปี ส่วนมาตรา 215 มีโทษจำคุก 6 เดือน ซึ่งต้องจับตาว่าทีมทนายความจะมีการหารือกันเพื่อนำแกนนำทั้ง 7 คน เข้ามอบตัวหรือไม่ หรือจะมีการยื่นขอประกันตัว พล.ต.จำลอง และนายไชยวัฒน์ ในวันนี้
ขณะที่พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำคำสั่งของศาลอุทธรณ์ไปยื่นรายงานต่อผู้บังคับบัญชา คือ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าพนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องขอฎีกาภายใน 30 วัน เพื่อยืนยันขอให้มีการออกหมายจับในข้อหากบฏตามเดิม