กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ (IMF) ระบุว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้าจะชะลอตัวลงอย่างหนัก ขณะที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 50 ปี
ไอเอ็มเอฟ เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับมุมมองเศรษฐกิจโลก ก่อนการประชุมสุดยอดไอเอ็มเอฟ ว่า เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอย่างชัดเจน หลังจากเผชิญกับวิกฤตการณ์ด้านการเงินครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษหลังปี 1930 เป็นต้นมา โดยเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5 เมื่อปีที่แล้ว จะขยายตัวเพียงร้อยละ 3.9 ในปีนี้ และในปีหน้าการขยายตัวของเศรษฐกิจจะลดลงอีกเหลือเพียงร้อยละ 3 ซึ่งนับว่าเป็นการขยายตัวที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา
ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวเพียงร้อยละ 2 ในปีที่แล้ว จะลดลงเหลือเพียงร้อยละ 1.6 ในปีนี้ และในปีหน้าอาจเกิดสภาวะชะงักงันด้านเศรษฐกิจขึ้น
ไอเอ็มเอฟ เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับมุมมองเศรษฐกิจโลก ก่อนการประชุมสุดยอดไอเอ็มเอฟ ว่า เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอย่างชัดเจน หลังจากเผชิญกับวิกฤตการณ์ด้านการเงินครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษหลังปี 1930 เป็นต้นมา โดยเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5 เมื่อปีที่แล้ว จะขยายตัวเพียงร้อยละ 3.9 ในปีนี้ และในปีหน้าการขยายตัวของเศรษฐกิจจะลดลงอีกเหลือเพียงร้อยละ 3 ซึ่งนับว่าเป็นการขยายตัวที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา
ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวเพียงร้อยละ 2 ในปีที่แล้ว จะลดลงเหลือเพียงร้อยละ 1.6 ในปีนี้ และในปีหน้าอาจเกิดสภาวะชะงักงันด้านเศรษฐกิจขึ้น
