พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า ยังมีการเรียกร้องให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมกันให้มากๆ โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายประชาชน แต่ในช่วง 2-3 วันนี้ ได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้ชุมนุมว่าจะหยุดเคลื่อนไหวดาวกระจาย เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะคอยดูแลอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย รวมทั้งการจราจร ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ก็ได้รับความช่วยเหลือจากฝ่ายทหารเข้ามาดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการต่างๆ ที่อาจตกเป็นเป้าหมายสร้างความเสียหายต่างๆ
ทั้งนี้ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีเพียงแก๊สน้ำตาเท่านั้นในการสลายการชุมนุม และอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน เช่น โล่ ซึ่งเป้าหมายเพียงต้องการเปิดทางให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในการแถลงนโยบายรัฐบาล และไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยยึดอาคารรัฐสภา ซึ่งยืนยันได้ว่า การบาดเจ็บและเสียชีวิตของประชาชน ไม่ได้เกิดจากอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปใช้ควบคุมการชุมนุม แต่ผลที่เกิดบาดแผลขึ้นน่าจะเกิดจากวัตถุระเบิด ซึ่งเชื่อว่ามีการปฏิบัติการซ้อนขึ้นระหว่างการทำหน้าที่ของตำรวจ ทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต เพื่อสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำไปขยายเหตุการณ์ชุมนุมให้รุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนกำลังนำภาพที่สื่อมวลชนบันทึกได้ไปสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป เพื่อหาตัวผู้สร้างสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น ส่วนการระดมพันธมิตรฯ จากต่างจังหวัดเข้ามาเพิ่มเติมนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดพยายามชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้าใจ แต่คงทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
ทั้งนี้ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีเพียงแก๊สน้ำตาเท่านั้นในการสลายการชุมนุม และอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน เช่น โล่ ซึ่งเป้าหมายเพียงต้องการเปิดทางให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในการแถลงนโยบายรัฐบาล และไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยยึดอาคารรัฐสภา ซึ่งยืนยันได้ว่า การบาดเจ็บและเสียชีวิตของประชาชน ไม่ได้เกิดจากอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปใช้ควบคุมการชุมนุม แต่ผลที่เกิดบาดแผลขึ้นน่าจะเกิดจากวัตถุระเบิด ซึ่งเชื่อว่ามีการปฏิบัติการซ้อนขึ้นระหว่างการทำหน้าที่ของตำรวจ ทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต เพื่อสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำไปขยายเหตุการณ์ชุมนุมให้รุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนกำลังนำภาพที่สื่อมวลชนบันทึกได้ไปสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป เพื่อหาตัวผู้สร้างสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น ส่วนการระดมพันธมิตรฯ จากต่างจังหวัดเข้ามาเพิ่มเติมนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดพยายามชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้าใจ แต่คงทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
